นครราชสีมา-สุดเจ๋ง..นักวิจัย มทส.โคราช เปิดตัวเครื่องต้นแบบกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ กำจัดแมลงได้ 100% ไร้สารเคมี คงคุณภาพการงอกของเมล็ดพันธุ์
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้แถลงผลงานวิจัยเปิดตัวเครื่องต้นแบบกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งสามารถกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ 100% โดยไม่ใช้สารเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุนการผลิต ทั้งยังคงคุณภาพการงอกของเมล็ด เพื่อเตรียมขยายผลไปยังกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองรับกระแสผู้รักสุขภาพ และการขยายตัวภาคการผลิตข้าวอินทรีย์ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย
สำหรับเครื่องต้นแบบกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นผลงานวิจัยของผู้ช่วยศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์กมลชนก อำนาจกิติกร อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย ทองโสภา อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และคณะ โดยคณะผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหาการกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี และยังคงคุณภาพของการงอกที่สูงขึ้นกับข้าวพันธุ์ที่มีความสำคัญมากทางเศรษฐกิจของไทย 6 พันธุ์ คือ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 , กข 15 , กข 6 , กข 31 , ปทุมธานี 1 และสันป่าตอง 1 ด้วยการนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุในการกำจัดแมลงศัตรูข้าวเปลือกที่สำคัญ 3 ชนิด ได้แก่ ผีเสื้อข้าวเปลือก มอดหัวป้อม และด้วงงวง
โดยใช้เทคนิคการกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าว ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ระหว่าง 31.25 – 41.25 เมกกะเฮิร์ตซ์ โดยมีอัตราการไหลอยู่ที่ประมาณ 300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ต้นทุนการผลิตเครื่องต้นแบบอยู่ที่ 450,000 บาทต่อเครื่อง สำหรับอายุการใช้งาน 4 ปี ค่าไฟฟ้า 80 บาทต่อตัน มีค่าใช้จ่ายในการกำจัดแมลงอยู่ที่ประมาณ 84 บาทต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าการใช้สารเคมีในการกำจัดแมลง ที่มีค่าใช้จ่าย ระหว่าง 84 – 190 บาทต่อตัน โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ผ่านเครื่องต้นแบบกำจัดแมลงศัตรูเมล็ดพันธุ์ข้าวดังกล่าว สามารถกำจัดแมลงได้ผล 100% และผลการวิจัยยืนยันชัดเจนว่า เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ผ่านการกำจัดแมลงด้วยวิธีนี้ ไม่มีความเสียหายระดับเซลล์ รวมทั้ง ไม่กระทบต่ออายุการเก็บรักษา การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวที่มีความสำคัญมากทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งจากผลสำเร็จของโครงการวิจัยครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์อย่างสูงแก่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคณะผู้วิจัยฯ จะใช้ผลการวิจัยไปตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติต่อไป .