กรณีเกิดเหตุเด็กนักเรียนชายตกลงมาจากอาคารเรียนเสียชีวิต ภายในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจากการสอบถามอาจารย์รายหนึ่ง (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.3/1 เรียนเก่ง มีผลการเรียนดี โดยพบกระเป๋านักเรียนของเด็กผู้เสียชีวิตถูกวางทิ้งไว้อยู่บริเวณชั้น 5 และพบรองเท้าของเด็กผู้เสียชีวิตถอดทิ้งไว้อยู่บริเวณชั้น 6 ของอาคารเรียน เบื้องต้นคาดว่าเด็กนักเรียนคนดังกล่าวได้กระโดดลงมาจากบริเวณระเบียงชั้น 6 ของอาคารด้านหลัง ก่อนที่ร่างจะตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ย. 65) บรรยากาศด้านหน้าของโรงเรียนเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ภายหลังจากทางโรงเรียนที่ได้ออกประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการภายใน ในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. 65 เพื่อให้คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ร่วมแสดงความอาลัยต่อเหตุการณ์การสูญเสียในครั้งนี้ และจะเปิดการเรียนการสอนปกติในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย. 65 นอกจากนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครรราชสีมา พร้อมด้วยสหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา รวมถึงผู้บริหารของโรงเรียน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับร่วมประชุมหารือแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเด็ก โดยในเบื้องต้นเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้
ด้านงานศพทางโรงเรียนจะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมทุกคืน รวมถึงออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังเตรียมวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ด้วยการจัดครูเวรคอยตรวจตราตามอาคารเรียนหลังเลิกเรียน พร้อมกับส่งครูประจำชั้นลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนให้บ่อยขึ้น ซึ่งหากพบว่าเกิดปัญหาจะได้เป็นการป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเหตุการณ์นี้ อีกทั้งยังได้เตรียมประสานนักจิตวิทยาให้เข้าไปอบรมให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษา และเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โดยจะให้ครูที่ปรึกษาและครูประจำชั้นช่วยคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า
ในส่วนของคดีความ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน และการสอบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า เด็กนักเรียนคนดังกล่าวน่าจะกระโดดลงมาจากอาคารเอง เนื่องจากพบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนพบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเด็กได้เดินขึ้นไปยังอาคารที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว และนั่งนิ่งท่าทางซึมอยู่พักหนึ่ง รวมทั้งสิ่งของของเด็กที่ตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ประกอบกับไม่พบหลักฐานการต่อสู้ทำร้ายร่างกาย และเด็กผู้เสียชีวิตก็มีรูปร่างตัวใหญ่ จึงเชื่อว่าเด็กน่าจะเป็นผู้ที่กระโดดอาคารเรียนลงไปเอง ทั้งนี้ทางผู้ปกครองของเด็กก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาในครอบครัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโทรศัพท์มือถือของเด็กที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาเบาะแสเพิ่มเติมถึงสาเหตุของการเสียชีวิตครั้งนี้
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. พ่อของน้องผู้เสียชีวิตได้มารับร่างที่ห้องดับจิตโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดบุมะค่า ตำบลมาบตะโกเอน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านเกิด แต่ทางญาติไม่อนุญาตให้ทำข่าว ขอจัดงานแบบเงียบๆ ภายในครอบครัว เพราะยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
ขณะที่ มารดาของน้องให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ทั้งน้ำตาว่า ปกติน้องจะพักอยู่กับพ่อในตัวเมืองโคราช ส่วนตนจะอยู่ที่บ้านในอำเภอครบุรี ทุกวันพ่อจะไปรับไปส่งที่โรงเรียน แต่เมื่อวานนี้ผิดสังเกต ไปรอรับตอนเย็นก็ไม่เห็นลูก ปกติพ่อจะไปรับตอน 5 โมงเย็น ถ้าไม่เจอตรงนี้หน้าโรงเรียน น้องก็จะไปรอตรงร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ไม่เจอ และอีกอย่างน้องไม่เคยทิ้งโทรศัพท์ แต่เมื่อวานโทรศัพท์ไป โทรศัพท์ก็ยังดัง แต่ไม่มีคนรับ รู้สึกใจไม่ดีจึงประกาศตามหาผ่านทางโซเชียลจนมาทราบข่าว พ่อของน้องจึงรีบโทรบอกตนช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ได้ยินข่าวลูกก็ตกใจและเสียใจอย่างมาก แต่ก็รีบเดินทางมาดูร่างของลูกในที่เกิดเหตุ มาถึงประมาณ 3 ทุ่มกว่าแล้ว ตอนนี้ตนและทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ และไม่เชื่อว่าจะเป็นการกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะลูกชายเป็นคนร่าเริงสดใส สนุกสนานมาก และยังเรียนเก่ง มีผลการเรียนดี ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า หรือมีอาการบอกเหตุอะไรเลย จึงคิดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุพลัดตกลงมา แต่ช่วงเวลาไหนยังไม่รู้ ต้องดูจากผลชันสูตรก่อน ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตนและครอบครัว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาชื่อดัง 2 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ก็เคยเกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนกระโดดตึกอาคารเรียนลงมาเสียชีวิตมาแล้วเช่นกัน โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนประจังหวัดนครราชสีมาชื่อดัง ได้กระโดดตึกอาคารเรียนชั้น 8 ลงมาเสียชีวิต คาดว่าสาเหตุเกิดจากภาวะซึมเศร้า และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 เด็กนักเรียนชายอายุ 16 ปี ชั้น ม.6 โรงเรียนประจำจังหวัดชื่อดังเหมือนกัน ได้กระโดดตึกอาคารเรียนชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต คาดว่าสาเหตุเกิดจากภาวะซึมเศร้าเช่นเดียวกัน ส่วนอีกรายก่อนหน้านี้ ก็มีวัยรุ่นที่เป็นนักศึกษาคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กระโดดอาคารลงมาเสียชีวิตด้วย