สงขลา-ตำรวจ สภ.รัตภูมิ คุมตัว 5 ผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ฝ่ายปกครองไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างถูกปลัด และ อส.เรียกเงิน 1 ล้าน ยาบ้า 100 มัด ไอซ์ 10 กิโล แลกกับการปล่อยตัวเพื่อนผู้ต้องหาคดียา แต่ไม่มีให้จึงวางแผนบุกชิงตัว ลั่นไม่ได้ต้องการปล้นยาบ้า-อยากบอกให้สังคมรับรู้ถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐชุดนี้ที่เรียกรับผลประโยชน์
ความคืบหน้าแก๊งค้ายาเสพติดบุกชิงตัวผู้ต้องหา ขณะปลัด และอส.รวม 6 นาย พาผู้ต้องหาไปขยายผลล่อซื้อในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไปเพราะอยู่ในรถอีกคัน แต่ได้ปล้นปืนพกสั้น 9 มม.ของปลัด และอส.ไป 5 กระบอก ยาบ้า 2 หมื่นเม็ด บัตร ป.ป.ส.และรถเก๋งของปลัดไป โดยทางตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค 9 ได้เดินมายัง สภ.รัตภูมิ เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือบนรถเก๋งมิตซูบิชิ ทะเบียน กจ 5064 กทม. ของจ่าเอกไพรัช ที่คนร้ายขับไปทิ้งทำลายหลักฐานในอ่างเก็บน้ำ น้ำบ้านควนนา หมู่ 7 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยจะเน้นหาดีเอ็นเอภายในตัวรถเป็นสำคัญ ตรวจหลักฐานอื่นที่อยู่ภายในรถด้วย ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ปล้น อส. ทั้งปืน M4 และปืน 9 มม. เจ้าหน้าที่ ศพฐ. จะตรวจหลังจากนี้
สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้ว 5 ราย คือ นายอัฟฟานหรือบี แก้วเรืองศรี อายุ 35 ปี นายธีระวุฒิ หรือเลี่ยม หัวแหวน อายุ 28 ปี นายกัมปนาท หรือบังดล หมัดอาด้ำ อายุ 47 ปี นายเสริมศักดิ์ หรือ เสริม ศรีสุวรรณ อายุ 46 ปี และนายประวิทย์ หรือนุ๊ก ฤทธิ์เทวา อายุ 26 ปี
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. ตำรวจ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 5 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุรวมทั้งหมด 5 จุด ตั้งแต่จุดรวมตัวกินก๋วยเตี๋ยวกันที่หมู่ 7 ต.เขาพระ จนถึงจุดที่ลงมือก่อเหตุในพื้นที่หมู่ 11 ต.กำแพง และจุดที่พารถยนต์ไปฝากไว้ซึ่งการทำแผนทุกจุดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และผู้ต้องหาทั้ง 5 คนรับสารภาพ และให้ความร่วมมือบอกในรายละเอียดการก่อเหตุในครั้งนี้ทุกอย่าง
จากการสอบถาม นายเสริมศักดิ์ ให้การอ้างว่า เหตุการณ์นี้พวกตนวางแผนชิงตัว นายธนกร สุวรรณชนะ อายุ 35 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมยาบ้า เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจาต่อรองกับปลัด และอส.ชุดนี้ โดยมีการเรียกเงิน 1 ล้านบาท ยาบ้า 100 มัด และไอซ์ 10 กิโลกรัม แต่ต่อรองเหลือแค่ 3 แสน แต่พวกตนไม่มีเงินมาจ่ายเงิน จึงร่วมกันวางแผนชิงตัว ซึ่งตอนที่มีการเจรจากัน พวกตนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเจ้าหน้าที่ คิดว่าเป็นโจร มารู้ขณะลงมือก่อเหตุว่าเป็นปลัด และอส. และพวกตนก็ไม่ได้ต้องการที่จะชิงยาบ้าแต่อย่างใด
นายเสริมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า พวกตนอยากบอกให้สังคมรับรู้ถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐชุดนี้ที่เรียกรับผลประโยชน์เพราะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสื่อมเสีย
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้มีการสรุปความคืบหน้าคดีนี้ล่าสุดได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 9 คน จับกุมได้แล้ว 5 คน ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอีก 4 คน ประกอบด้วยนายประทีป หลงบุญขวัญ, นายวรพจน์ นวลละออง หรือบ่าว, นายเดโช บูรเพ็ชร หรือหนุ่ม, นายโชคนิมิต จิตรการุน หรือจ๊อด
