
สงขลา-ตำรวจตามจับแก๊งค้ายาเหิมเกริมชิงตัวผู้ต้องหา ปล้นปลัดฯ-อส. ขณะนำตัวไปขยายผล ได้เพิ่มอีก 1 คน หลังจับได้แล้ว 4 คน เตรียมออกหมายจับอีก 4 ที่ร่วมก่อเหตุ ขณะที่ของกลางยึดได้ทั้งอาวุธปืน รถ
จากกรณีแก๊งค้ายาเสพติดบุกชิงตัวผู้ต้องหา ขณะปลัดและอส.รวม 6 นาย พาผู้ต้องหาไปขยายผลล่อซื้อในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไปเพราะอยู่ในรถอีกคัน แต่ได้ปล้นปืนพกสั้น 9 มม.ของปลัดและอส.ไป 5 กระบอก ยาบ้า 2 หมื่นเม็ด บัตร ปปส.และรถเก๋งของปลัดไป โดยคดีนี้ได้ทางการสืบสวนพบว่า มีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 9 คน ปล้น 8 และคนวางแผนอีก 1 และเมื่อวานนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน พร้อมรถยนต์ของคนร้ายที่ขับไปก่อเหตุ 3 คัน และรถเก๋งของปลัดที่ถูกขับไปทิ้งไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านควนนา หมู่ 7 ต.กำแพงเพชร รวมทั้งปืนของคนร้ายอีก 3 กระบอกที่นำไปซ่อนไว้ในพงหญ้าใต้ป้ายน้ำตกโตนปลิว หมู่ 10 ต.คลองต่อ และยาบ้าที่ชิงไปซึ่งมีจำนวน 16,000 เม็ด
ล่าสุดเมื่อ 22 ต.ค.2565 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลืออยู่อีก 4 คนแล้ว เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดที่อยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หนึ่งในนั้นชื่อ นายบ่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่าเป็นคนนำปืนของปลัดและ อส.ทั้ง 5 กระบอกไปฝังดิน
ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 และชุดสืบสวน สภ.รัตภูมิ ได้แยกกันลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 4 คน และเป็นไปได้ว่าอาจจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่จับกุมได้แล้ว ประกอบด้วย นายอัฟฟาน หรือบี แก้วเรืองศรี 2. นายธีระวุฒิ หรือเลี่ยม หัวแหวน 3. กัมปนาท หมัดอาด้ำ หรือบังดล และ 4. นายเสริมศักดิ์ ศรีสุวรรณ ส่วนอีก 1 คนยังไม่ทราบชื่อ ตำรวจ สภ.รัตภูมิ จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจ.สงขลา ผัดแรก
สำหรับรถที่ใช้ก่อเหตุทั้งหมดมี 3 คัน 1. เก๋งวีออส สีขาว ทะเบียน ขจ-4654 สงขลา 2. รถกระบะอีซูซุ สีดำแค็บ ทะเบียน ป-8351 สงขลา และรถเก๋งยาริส สีขาว ทะเบียน ขข-6621 สุราษฎร์ธานี และรถของจ่าเอกไพรัช ยี่ห้อมิตซูบิชิ แอททราจ สีดำ ทะเบียน 1กจ-5064 กรุงเทพมหานคร ที่คนร้ายนำไปทิ้งในบ่อน้ำ ซึ่งทั้ง 4 คัน เจ้าหน้าที่สามารถยึดได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้
ส่วนของกลางอื่นที่ยึดได้ มีทั้งอาวุธ ปืน M4 และอาวุธปืน 9 มม.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้วนำไปซุกซ่อนไว้ในพงหญ้า สำหรับพฤติกรรมของการก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาโดยเฉพาะนายเสริมศักดิ์ ซึ่งเป็นตัวหลักและคนวางแผนทั้งหมด เป็นผลมาจากแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้เข้าใจผิดว่าแก๊งของปลัดและอส.เป็นแก๊งโจรที่จับกุม นายธนกร เครือข่ายค้ายาเสพติดในกลุ่มเดียวกันไป จึงร่วมกันวางแผนบุกชิงตัวผู้ต้องหา และมารู้ว่าเป็นปลัดและอส.ตอนที่บุกเข้าชิงตัว