พัทลุง-ตำรวจสอบสวนกลางบุกจับกุมหนุ่มฆาตกรโรคจิตล่อลวงซ้อมสาวกักขังเจ็บปางตาย พบประวัติเคยทารุณเหยื่อ จนเสียชีวิตคาห้องพัก

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เป็นประธานในการแถลงข่าว การจับกุม นายธนเดข หรือ รุจ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย โดยจับกุมได้ที่ห้องพักในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา

สำหรับพฤติการณ์ เนื่องจากวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งพบศพนางสาวกมลเนตร อายุ 26 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่า สภาพศพมีบาดแผลจากการถูกทำร้าย กะโหลกศีรษะแตก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง กระดูกสันหลังหัก กระดูกซี่โครงหัก ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า นายธนเดช แฟนของผู้ตายเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยทำความรู้จักผ่านแอปหาคู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน และได้หลบหนีออกนอกพื้นที่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนทราบว่านายธนเดช ได้หลบหนีมาอยู่ในแมนชั่นแห่งหนึ่งทีทจังหวัดพัทลุง และขณะนั้นมีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่อลวงและกักขังอยู่ในห้องพักของนายธนเดช อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งระหว่างการจับกุมยังได้พบนางสาวเนย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดลำพูน อยู่ภายในห้องพักดังกล่าวด้วย โดยมีสภาพถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ฟกช้ำตามร่างกายเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมจับกุมนายธนเดช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบ นายธนเดช มีประวัติเคยก่อเหตุหลายคดี ทั้งคดียาเสพติดและคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ถูกจำคุกจริง 5 ปี 10 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้ว

โดยจากการสอบถามคำให้การของผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายทั้งนางสาวกมลเนตร จนถึงแก่ความตาย และ นางสาวเนย จนได้รับบาดเจ็บจริง ซึ่งสาเหตุที่ทำกับเหยื่ออ้างว่าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ทำไปเนื่องจากหึงหวงและควบคุมอารมณ์ไม่ได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่าที่ผ่านมานายธนเดช มักมีพฤติกรรมชอบแชทคุยกับหญิงสาว โดยจะบอกว่ารักและขอนัดเจอ เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อก็จะพามากักขังที่ห้องพัก ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมต่อไป