ตำรวจ สอท.เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกมังกร รวบ 13 ผู้ต้องหาทั้งคนไทยและคนจีน ร่วมก๊วนคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 6 ล้านบาทไปยังบัญชีม้าที่เตรียมไว้

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2565 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐายุฎฐ์ จันทร์ถาวร พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ภายใต้ยุทธการ “เด็ดปีกมังกร” จับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวจีนและชาวไทย 13 ราย

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา บช.สอท.ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ ว่า ถูกคนร้ายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอออกอุบายลวงว่า ผู้เสียหายมีส่วนร่วมในการกระทำผิดอาญา และส่งหมายจับปลอมของหน่วยงานราชการที่คนร้ายปลอมแปลงให้ผู้เสียหายดูจนหลงเชื่อก่อนสั่งให้ผู้เสียหายโอนเงินกว่า 6,976,094.87 บาท ไปยังบัญชีที่คนร้ายเตรียมไว้ โดยให้เหตุผลว่า ต้องตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าวว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ จากนั้นได้ขาดการติดต่อไป

ผบช.สอท.กล่าวต่อว่า หลังพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.4 ได้สืบสวนสอบสวนจนทราบถึงที่ตั้งของขบวนการดังกล่าว จึงขอหมายค้นเข้าตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักอาศัยและใช้ในการกระทำความผิด และจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน-ไต้หวัน ได้ 2 ราย ทำหน้าที่เป็นผู้ถือบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ในการทำธุรกรรม พบของกลางรวม 61 รายการ ประกอบไปด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมชิมการ์ด จำนวน 39 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก, สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม, หนังสือเดินทาง และของกลางรายการอื่นๆ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบยังพบว่า มีการลงทะเบียนผูกกับบัญชีธนาคารของบุคคลอื่น (บัญชีม้า) ติดตั้งอยู่ภายในโทรศัพท์ รวมทั้งสิ้น 13 บัญชี ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าบัญชีธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ที่ตรวจพบมีไว้สำหรับใช้ในการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินมาที่บัญชีดังกล่าว และยังพบว่าบัญชีเหล่านี้มีความเชื่อมโยง และเกี่ยวข้องในคดีคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) อีกหลายคดี

ด้าน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก พบข้อมูลที่มีไว้เพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายภายในโปรแกรม พบหมายเรียก หมายจับ หมายคดีฟอกเงินของ ปปง., หมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา และยังตรวจพบเว็บไซต์หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ที่มีการปลอมแปลงขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กลุ่มคนร้าย อย่างไรก็ตามจากการขยายผลสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก แบ่งเป็น กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า 8 ราย, กลุ่มรวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งต่อให้กับนายทุนชาวจีน 1 ราย และกลุ่มทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้เสียหายเพื่อนำมาใช้ในการหลอกลวง 2 ราย เบื้องต้นพบความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท