หลังเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหกได้ระบายน้ำออกมาในปริมาณมาก ทำให้มวลน้ำเหนือมารวมกับน้ำทะเลหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนหนทางที่อยู่ติดใกล้เคียงริมแม่น้ำตลอดทั้งแนวโดยเฉพาะบริเวณ สี่แยกพระราม 5 พบการจราจรชะลอตัวติดขัดลงเล็กน้อยช่วงก่อนเลี้ยวกำลังขึ้นสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าทิศทางขาออก

เนื่องจากมีปริมาณมวลน้ำเอ่อล้นขึ้นมายังพื้นถนนประมาณ 5-40 ซม.ซึ่งจุดที่ลึก 40 ซม.นั้นเป็นพื้นที่ต่ำ ขยับจากสี่แยกเข้ามาทางกลับรถยูเทิร์นใต้สะพาน โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่องขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางท่อสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว เร่งสูบดูดน้ำระบายจากพื้นที่ด้านในออกกลับคืนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และเจ้าหน้าที่เทศบาลได้สร้างทำแนวคันกั้นกระสอบทรายบล็อกมวลน้ำเอาไว้แล้ว ปริมาณน้ำจะค่อยๆลดลงในช่วงเวลา 22.00 น.ของวันที่ 10 ต.ค.เป็นต้นไป

ขณะที่ปริมาณน้ำภายในซ.พิบูลสงคราม 1 หรือ ท่าเรือแตงโมนิดา มวลน้ำได้ไหลเข้าเอ่อเต็มพื้นที่ด้วยเช่นกัน ระดับน้ำบนพื้นถนนสูง ประมาณ 15-25 ซม.และภายในซอยต่างๆที่อยู่ใกล้ริมน้ำระดับน้ำประมาณ 20-50 ซม. ในพื้นที่ต่ำบางจุดสูง 20ซม.-1.3 ม.และระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลงในช่วงเวลา 21.30-22.30น.

บรรยากาศที่บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ท่าน้ำนนท์ พบเจ้าหน้าที่เทศบาลนนทบุรีติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 8 สูบ เส้นผ่าศูนย์กลางท่อมีขนาด 6 นิ้ว 8 นิ้วและ 12 นิ้ว จำนวน 5ตัว ตลอดแนวริมเขื่อนท่าน้ำนนท์ เพื่อเร่งสูบน้ำที่เอ่อล้นเข้ามาภายในพื้นที่ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยากลับคืน โดยในช่วงเวลา 22.47น.สามารถวัดระดับน้ำจากสเกลมาตราวัดน้ำแตะอยู่ในแถบของพื้นที่สีเหลือง(เฝ้าระวัง)ได้ที่ 2.50 ม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เทศบาล ได้สร้างแนวกระสอบทรายคันกั้นน้ำสูงประมาณ 85-95ซม.หรือสูง 9 ชั้นกระสอบทราย วางทำแนวคันกั้นตลอดแนวริมเขื่อน เพื่อวางบล็อกปริมาณมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้เอ่อล้นเข้ามาภายในพื้นที่ของถนนรอบวงเวียนหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์