ชลบุรี-พ่อเมืองชลบุรีนำข้าราชการ ประชาชน ฟังพระธรรมเทศนา ‘อุภินนมัตถจรกถา’ เฉลิมพระธรรมบารมี สมเด็จพระพันปีหลวง ที่ วัดราษฏร์ศรัทธา(ท้ายดอน) ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่10 ตุลาคม 2565 ที่ วัดราษฏร์ศรัทธา(ท้ายดอน) ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นประธานพิธีฟังเทศน์บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีในพิธีแสดงพระธรรมเทศนา “อุภินนมัตถจรกถา” (อุ-พิน-นะ-มัด-ถะ-จะ-ระ-กะ-ถา) รับฟังพระธรรมเทศนา เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งนี้พระครูสมุห์ ธรรพ์ณธร ธมฺมทินฺโน (ดร.) เลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองชลบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ศรัทธาแสดงบทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา”
โดยมีนายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี น.ส.ฐิติลักษณ์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรีนายอำนาจ เจริญศรี ปลัดจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองท้องถิ่น ข้าราชการ และประชาชนร่วมในพิธีกว่า 300 คน
ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดดำเนินการจัดพิธีทำบุญและฟังเทศน์บทพระธรรมเทศนาธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระธรรมบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และวันพระ โดยร่วมกับพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จัดพิธีดังกล่าวในทุกวัดของจังหวัด ตลอดปี 2565
ในการนี้ จังหวัดชลบุรี จึงได้กำหนดจัดพิธีทำบุญและฟังเทศน์บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีฯ ในเดือนตุลาคม 2565 คือวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565 ณ วัดราษฎร์ศรัทธา (ท้ายดอน) ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี และอีกครั้งในวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 ณ วัดเครือวัลย์ ต.มะขามหย่ง อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “อุภินนมัตถจรกถา” (อุ-พิน-นะ-มัด-ถะ-จะ-ระ-กะ-ถา) เป็นบทพระธรรมเทศนาแสดงอรรถาธิบายพระบรมพุทโธวาทของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าด้วยความประพฤติให้สำเร็จประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือประโยชน์เพื่อตนและเพื่อผู้อื่น ด้วยการอบรมเจริญคุณธรรมสำคัญ 3 ประการให้มีพร้อมขึ้นในตน ได้แก่ “ศีล” คือการรักษากายวาจาให้เป็นปรกติเรียบร้อย “ปัญญา” คือความฉลาดรอบรู้ หรือความรู้ชัดในเหตุและผล และ “สุตะ” คือการศึกษาเล่าเรียน เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมาก
ทั้งนี้ ธรรมะทั้ง 3 ประการ คือ ศีล ปัญญา และสุตะ นี้ ต่างอาศัยกันและกันเป็นไปจึงจะส่งผลสมบูรณ์ ให้ได้บำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นได้ทั้งสองสถาน ถ้าประชาชนสามารถเจริญธรรมะทั้ง 3 ประการให้พรั่งพร้อม ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่สังคมส่วนรวม ย่อมเป็นการฉลองพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สมดังพระราชปณิธานแห่งธรรมราชินี