นครราชสีมา-โจรย่ามใจ..ไม่กลัวกล้อง ไม่กลัวกฎหมาย งัดออฟฟิศร้านรับซื้อของเก่า 4 รอบ กวาดเงินในเซฟไปกว่า 4 พันบาท
พ.ต.อ.นธีร์ สุคุณา ผกก.สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่า มีเหตุโจรงัดแงะตู้เซฟ ที่ร้านรับซื้อของเก่า หจก.ปราบขยะพิมาย ตั้งอยู่เลขที่ 99 ม.2 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ติดถนนสายพิมาย-ชุมพวง จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วัฒนะ วรรณประดิษฐ์ สว.สส.สภ.พิมาย พร้อม ร.ต.อ.ชัยณรงค์ แสงอ่อน สายตรวจประจำตำบลรังกาใหญ่ , ร.ต.ท.เนติโรจน์ ปิยะภิรมย์ชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย และชุดสืบสวน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยพบกับนางสาวสุพัตรา สุพัฒนโยธิน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/2 ม.15 บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เป็นเสมียนของร้านรับซื้อของเก่า หจก.ปราบขยะพิมาย ได้นำเจ้าหน้าที่ฯ ไปตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ดัดแปลงทำเป็นออฟฟิศ ซึ่งห่วงโซ่กุญแจล็อคประตู มีร่องรอยถูกกรรไกรตัดเหล็กซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่ในร้าน ตัดจนขาด แล้วคนร้ายจึงเปิดเข้าไปงัดตู้เซฟเอาเงินไป โดยกล้องวงจรปิดด้านนอกออฟฟิศสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน ส่วนกล้องที่อยู่ในห้องออฟฟิศ คนร้ายได้เอาผ้ามาปิดหน้ากล้องไว้ จึงไม่เห็นช่วงที่เจาะตู้เซฟขนาดเล็ก
จากการสอบถาม นางสาวสุพัตราฯ เสมียนของร้าน บอกว่า ถูกคนร้ายย่องเข้ามาในช่วงกลางคืน งัดประตูออฟฟิศครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบทุกครั้ง และเจ้าหน้าที่ฯ ก็รู้ตัวผู้ประกอบเหตุ แต่ยังจับตัวไม่ได้ ห่างไปไม่ถึง 5 วัน คนร้ายชุดเดิมก็มาก่อเหตุซ้ำ แต่ละครั้งจะได้เงินในเซฟไปครั้งละกว่า 1 พันบาท และในครั้งนี้ก็ได้เงินไปกว่า 1 พันบาทเช่นกัน ซึ่งตนจำใบหน้าคนร้ายได้ เป็นลูกค้าที่เคยนำของเก่ามาขาย ซึ่งคนร้ายดูเหมือนไม่กลัวกล้องวงจรปิดและไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยังย่ามใจมาก่อเหตุซ้ำๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับคนร้ายชุดนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะไปก่อเหตุที่อื่นอีก
ทั้งนี้ ทางร้านจะไม่มียามเฝ้าและไม่มีคนงานพักอยู่ที่ร้าน คนร้ายจึงอาศัยโอกาสย่องเข้ามาขโมยทรัพย์สินในยามวิกาลทั้งช่วงหัวค่ำและกลางดึก โดยครั้งแรกก่อเหตุเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2565 ได้ทรัพย์สินเป็นทองแดงไป 2 กระสอบ เป็นมูลค่า 17,000 บาท , ครั้งที่ 2 คือวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 เข้ามารื้อค้นภายในร้านจนพังเสียหาย แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป , ครั้งที่ 3 วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ได้เงินสดที่เก็บไว้ในตู้เซฟ ไป 2,300 บาท โดยคนร้ายรู้รหัสเซฟ แล้วเปิดเอาเงินสดไปโดยไม่ได้ทุบทำลายตู้เซฟ และครั้งที่ 4 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา(วันที่ 20 กรกฎาคม 2565) คนร้ายงัดโซ่กุญแจประตูออฟฟิศและรื้อค้นหาทรัพย์สิน พร้อมงัดเซฟบริเวณช่องใส่เงินจนพังเสียหาย ซึ่งครั้งนี้ ทางร้านไม่ได้เก็บธนบัตรเอาไว้ในเซฟ เพราะโดนขโมยมาแล้วหลายครั้ง จึงมีแต่เงินเหรียญที่เก็บไว้เท่านั้น คนร้ายจึงได้เงินเหรียญไปรวม 1,000 กว่าบาท ส่วนตู้เซฟมูลค่า 4,000 บาท ก็พังเสียหาย สรุป 4 ครั้ง มีทรัพย์สินถูกขโมยและพังเสียหาย เป็นมูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท .