“เลขาฯ ป.ป.ส.” มอบนโยบายยาเสพติด 12 ภารกิจสำคัญ 6 แนวทาง ปราบ-ป้อง-บำบัด-บูรณาการ-ร่วมมือ ตปท. ยกเครื่อง เดินหน้าเต็มสูบ


ย้ำเป้าหมายยึดทรัพย์ 100,000 ล้าน ตามนโยบายรัฐบาล
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวมอบนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำปี 2566 แก่ผู้บริหารและข้าราชการ ป.ป.ส. ณ ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) และประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (VDO Conference และ Cisco Webex) ไปยังสำนักงาน ปปส.ภาค 1-9 และปปส.กทม. พร้อมกันทั่วประเทศ
โดยในช่วงแรก เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบรางวัลให้แก่ สำนัก/ภาค ที่มีผลการบริหารจัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สูงที่สุด 3 อันดับแรกและมอบรางวัลให้แก่สำนัก/ภาค ที่มีผลการยึดอายัดทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สูงที่สุด 3 อันดับแรก รวมทั้งรางวัลผลงานสืบสวนสอบสวนยอดเยี่ยมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รวมทั้งสิ้น 7 รางวัล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงาน และเป็นตัวอย่าง Best practice ในการพัฒนางานยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า“ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มี 12 ภารกิจสำคัญ 6 แนวทาง โดยด้านการป้องกันยาเสพติด เน้นการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมการป้องกันให้ครอบคลุม ทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเสี่ยงเสพ ให้มีการสร้างการรับรู้ โดยบรรจุหลักสูตรการเรียนการสอนแบบถาวร เสริมสร้างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง กลุ่มเสี่ยงค้า เน้นถึงโทษที่ได้รับและการยึดทรัพย์ รวมทั้ง การพัฒนาเครือข่ายเยาวชนระหว่างในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Youth Network on Drugs Prevention Program: YNDPP) ด้านการปราบปรามยาเสพติด สืบสวนขยายผลเครือข่ายการค้ายาเสพติดและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยมีเป้าหมายยึดอายัดทรัพย์สินผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไว้ที่ 100,000 ล้านบาท มุ่งเน้นคิดแบบมูลค่า (Value- Based Confiscation) ทำสำนวนให้มีคุณภาพ ขยายการยึดทรัพย์สินที่มีอยู่ และจะมีการจัดประชุมเสวนาในการบูรณาการการทำงาน การทำความเข้าใจในการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน


ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เน้นการบำบัดรักษาตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้คำปรึกษาด้านจิตสังคมในระบบศาล และแก้ปัญหาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตอันเนื่องมาจากการใช้ยาเสพติด ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งได้มีความร่วมมือกับ 25 ประเทศ 4 องค์กรระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติดและสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และเพื่อให้การทำงานยาเสพติดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ได้มีการจัดตั้งศูนย์บูรณาการฐานข้อมูลด้านยาเสพติดแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านยาเสพติดของประเทศ”


” ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ หน่วยงานยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจะต้องพัฒนาไปด้วยกันทั้งในด้านการทำงานและความสัมพันธ์ จึงจะแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเป็นเหตุผลที่เราตั้ง วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (วปส.) ซึ่งในปี 2566 เรามีเป้าหมายในการพัฒนา วปส. เป็นพื้นที่ศูนย์กลางของภูมิภาคในการแลกเปลี่ยนให้ความรู้และสร้างเป้าหมายร่วมกันในด้านยาเสพติด ที่ไทยและประเทศลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะได้ประโยชน์ นอกจากนั้น วปส. จะเป็นศูนย์ในการใช้ประโยชน์พืชเสพติดอย่างเหมาะสม เช่น พืชฝิ่น เห็ดขี้ควาย ที่จะมีการทดลองปลูกและวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย “ตนมั่นใจแนวทางนี้จะยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สอดคล้องกับแนวทางประมวลกฎหมายยาเสพติด ทั้งนี้ ตนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร และเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร

โดยเฉพาะการสืบสวนสอบสวน โดยใช้วิธี On the Job Training รวมทั้งการให้ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ และการจัดทำมาตรฐานการทำงาน (Standard Operating Procedure :SOP) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถอย่างรอบด้านเราต้องวางเป้าหมายสูงเพื่อให้ทันกับสถานการณ์และลดปัญหายาเสพติด เช่นในปี 2565 เราผลักดันประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ และยึดทรัพย์คดียาเสพติดได้ 10,000 ล้านบาท ปี 2566 เราตั้งเป้าหมายยึดทรัพย์คดียาเสพติดให้ได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า ที่ 100,000 ล้านบาท เชื่อว่าสามารถทำได้ ซึ่งปีนี้ ทุกอย่างจะเข้มข้นมากขึ้น เพื่อเป้าหมายสุดท้าย คือ ลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนตามนโยบายรัฐบาล”