สาวเจ้าของบ้าน ร้องทนาย “ธนาคาร” ยึดบ้านผิดหลัง ส่งคนมารื้อบ้าน ขนทรัพย์สินทิ้ง ปิดประกาศขายบ้าน ร้องหาความรับผิดชอบ

เพจทนายคู่ใจ ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้มีการแชร์เรื่องราว ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากแฟนเพจว่า บ้านของตนเอง ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ถูกธนาคารส่งคนเข้ารื้อทรัพย์สินภายในบ้าน และปิดประกาศขาย ต่อมาทราบว่าเป็นการยึดบ้านผิดหลัง

ทั้งนี้ผู้ร้องเรียน ระบุว่ามีบ้านอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี บ้านเลขที่ 99/38 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีผู้รับเหมาเข้ามารื้อทรัพย์สินภายในบ้านของตนออกไปจนหมด เหลือแต่บ้านโล่งๆ บริเวณภายนอกก็ตัดต้นไม้ รื้อกันสาด ยกสิ่งของออกไปจนหมด และติดป้ายประกาศทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 เพื่อนบ้านสงสัยว่าทำไมมีป้ายติดประกาศว่าบ้านเป็นทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุกและติดประกาศขาย แต่ ในประกาศเป็นบ้านเลขที่ 99/44 เพื่อนบ้านเลยโทรติดต่อธนาคารไปเพื่อที่จะขอซื้อดู จึงได้รู้ว่าบ้านที่จะขายนั้นบ้านเลขที่99/44 ไม่ใช่ บ้านเลขที่ 99/38

เพื่อนบ้านเลยโทรแจ้งตนว่า “จะขายบ้านหรอ เห็นคนมารื้อบ้านรีโนเวทและติดป้ายของธนาคาร” ซึ่งพอทราบเรื่องจากเพื่อนบ้านแล้ว จึงได้รีบเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น ซึ่งก็เห็นตามสภาพคือบ้านโล่งๆ ของถูกรื้อเอาออกไปจนหมดทุกอย่าง ประตูห้องครัวและประตูระเบียงถูกปิดล็อคโดยกุญแจของธนาคาร และก็ได้โทรแจ้งทางคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร คอลเซ็นเตอร์ก็รับเรื่องไว้

จากนั้นเจ้าของบ้านได้มีการแจ้งความกับ สถานีตำรวจลาดหลุมแก้ว ก่อนที่เจ้าของบ้านจะแจ้งเรื่องไปที่ธนาคาร ทางธนาคารจึงให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาขอโทษ และยอมรับว่าเป็นความผิดของธนาคารจริง ๆ ที่เข้ามายึดบ้านผิดหลัง จากนั้นได้ไป ไกล่เกลี่ยกันต่อหน้าตำรวจ เพื่อตกลงเรียกร้องค่าเสียหาย โดยเบื้องต้นประเมินไว้ที่ 2 ล้านบาท แต่ทางธนาคารก็ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาแต่อย่างใด โดยทรัพย์สินบางอย่างได้ถูกเก็บไว้ที่อีกที่หนึ่ง แต่บางอย่างได้ถูกทำลายไปแล้ว เช่น เสื้อผ้า หนังสือเก่า รูปภาพ และของสะสมต่าง ๆ รวมถึงของใช้ของลูกซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ ไม่สามารถหามาทดแทนได้แล้ว

เจ้าของบ้านเลยตัดสินใจมาปรึกษาทนายความ เพราะว่าหลังเกิดเหตุการณ์กว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้เสียหายต้องเป็นฝ่ายติดต่อทางธนาคารไปเองทุกครั้ง จากคลิปธนาคารยึดผิดบ้านนั้น แสดงให้เห็นภาพของชายฉกรรจ์ 3-4 คนเข้าไปคนรื้อของ ก่อนจะขับรถออกไป จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่าธนาคารออกมาชี้แจงอย่างไร