สมุทรปราการ-ตำรวจสภ.บางแก้ว รวบพ่อเลี้ยงเมาโหด แทงดับลูกเลี้ยง เหตุซดเหล้าเสียงดัง ฉุนแม่ยายมาเตือน วางมวยลูกเลี้ยงแต่สู้ไม่ได้ ตร.สอบสวนสภาพเมาแอ๋ อ้างป้องกันตัว-แถมบอกไม่คิดลูกเลี้ยงจะถึงขั้นเสียชีวิต

พ.ต.ท.รัฐวัตต์ อยู่พิพัฒน์ สว.(สอบสวน) สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 2 ต.ค. 65 มีคนถูกแทงด้วยอาวุธมีดเสียชีวิต เหตุเกิดท้ายซอยกิ่งแก้ว 10 หมู่ที่ 2 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.พิษณุ คำนุ สวป.สภ.บางแก้ว ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.บางแก้ว แพทย์เวร รพ.บางพลี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นทางเท้าริมคลอง เดินเข้าไปประมาณ 500 เมตร พบศพ นายนิธิพัฒน์ สนสิน อายุ 16 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ สภาพนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด ตามร่างกายพบบาดแผลถูกแทงด้วยมีด 4 แห่ง เข้าที่หน้าผาก 1 แผล ลำคอด้านหน้า 1 แผล ลิ้นปี่ 1 แผล และชายโครงซ้ายด้านหลังอีก 1 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสุรพงษ์ ยกประสพรัตน์ อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดพังงา ถูกจับตัวได้บริเวณท้ายซอยไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ พร้อมมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ ความยาวประมาณ 23 ซม. 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นหลักฐาน และคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ที่ สภ.บางแก้ว

จากการสอบถาม นางสุดใจ ศรีสุข อายุ 61 ปี ยายผู้ตาย เล่าว่า นายสุรพงษ์ (ผู้ก่อเหตุ) เป็นลูกเขยตนและเป็นพ่อเลี้ยงผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุนายสุรพงษ์นั่งดื่มสุราเสียงดัง ตนจึงลงมาต่อว่าเพราะมันดึกแล้ว จนมีปากเสียงกัน จากนั้นผู้ตายได้ยินจึงลงจากบ้านมาดู จนเกิดการโต้เถียงกับนายสุรพงษ์จนถึงขั้นชกต่อยกัน นายสุรพงษ์สู้ไม่ได้จึงกลับไปที่ห้องพัก แล้วนำมีดออกมาไล่แทงผู้ตายไปหลายที จนวิ่งหนีตายออกมานอกบ้าน แต่ถูกตามมาแทงซ้ำจนล้มลงแล้วเสียชีวิตดังกล่าว

จากการสอบสวน นายสุรพงษ์ พบว่ายังอยู่ในอาการเมาสุราพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ให้การรับสารภาพว่า ใช้มีดแทงลูกเลี้ยงจริง โดยอ้างว่าป้องกันตัว และยอมรับมีปากเสียงกับแม่ยาย จนลูกเลี้ยงเข้ามาโต้เถียงจนถึงขั้นต่อยกันแต่สู้ไม่ได้ จึงไปเอามีดในห้องนอนมาไล่แทงลูกเลี้ยง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มอบศพผู้ตายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำส่งชันสูตร ที่ รพ.รามาจักรีนฤบดินทร์ บางพลี และแจ้งข้อกล่าวหานายสุรพงษ์ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.