นครศรีธรรมราช-หนุ่มคลุ้มคลั่งควงมีดไล่ฟันพ่อแม่หนีตายกระเจิง จับลูกน้อยวัยเพียงเดือนเศษเป็นตัวประกัน ตำรวจ-ญาติเกลี่ยกล่อมสักพักจนใจเย็นยอมมอบตัว สารภาพทะเลาะกับเมียหอบลูกมาอยู่บ้านพ่อ “เครียด-เสพยาบ้า” ขอเงินพ่อ 2 หมื่นไม่ได้ จนคลั่งคุมอารมณ์ไม่อยู่

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุชายคลุมคลั่งทำร้ายพ่อแม่ และจับลูกน้อยตัวเองไว้เป็นตัวประกัน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยหนองสระ ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งพ.ต.ท.ทศพล กาญจนหิรัญ สวป.สภ.ทุ่งใหญ่ จึงเดินทางไปตรวจสอบและช่วยระงับเหตุร่วมกับ ร.ต.อ.ชำนาญ เพชรเกื้อ เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ ร.ต.ต.สาธิต เขมวงศ์ หัวหน้าป้อมสายตรวจควนลำภู นายสำราญ เดชะราช ผู้ใหญ่บ้าน กู้ภัยมูลนิธิศรัทธาสามัคคีการกุล กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ และกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งทุ่งใหญ่

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทราบว่าชายคลุ้มคลั่งคือ นายเอกพันธ์ ชัยสุวรรณ อายุ 30 ปี เป็นอดีตช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ใช้มีดพร้าไล่ทำร้ายพ่อแม่ตัวเองและคนในบ้านจนต้องหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน หลังจากนั้นได้จับลูกสาวตัวเองวัย 1 เดือนเศษเป็นตัวประกัน แล้วปิดประตูขังตัวเองพร้อมลูกน้อยอยู่ภายในห้อง

ต่อมา เจ้าหน้าที่และญาติๆต้องใช้วิธีตะโกนพูดคุยผ่านประตูห้อง เพื่อให้ผู้ก่อเหตุใจเย็นสงบสติอารมณ์ลงและสอบถามถึงอาการของเด็ก จากนั้นไม่นานผู้ก่อเหตุก็ยอมพูดคุยและบอกให้เจ้าหน้าเข้าไปภายในห้อง เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุออกมาด้านนอก และช่วยเหลือเด็กทารกออกมาได้อย่างปลอดภัย

จากการสอบถามผู้ก่อเหตุ ทราบว่า เมื่อ 3 วันก่อน ผู้ก่อเหตุทะเลาะกับแฟนสาว จากนั้นได้พาลูกกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อ ระหว่างอยู่บ้านเกิดอาการเครียด บวกกับเสพยาบ้าเข้าไปด้วย จนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่บังคับพ่อขอเงิน 20,000 บาท แต่พ่อไม่มีให้ จึงคลุ้มคลั่งคว้ามีดพร้าไล่ทำร้ายพ่อกับแม่ จนต้องหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จากนั้นเพื่อนบ้านจึงโทรศัพท์ไปหาผู้ใหญ่บ้าน และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังพูดคุยอยู่กับผู้ก่อเหตุอยู่นั้น มีญาติคนหนึ่งไม่พอใจได้ตรงเข้าไปกระโดดถีบผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรีบห้ามปรามและพาตัวญาติออกไปอยู่ด้านนอก จากนั้นคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนต่อ ที่ สภ.ทุ่งใหญ่

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะ นายเอกพันธ์ (ผู้ก่อเหตุ) พบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกายจึงแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษ” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ นายไวพจน์ พ่อของผู้ก่อเหตุ ได้ขอแจ้งความเพิ่มเติมจับในข้อหา “พยายามฆ่า” พนักงานสอบสวนจึงทำหนังสือส่งตัว นายไวพจน์ ไปให้แพทย์ตรวจร่างกายดูก่อนว่า มีบาดแผลถูกทำร้ายมากน้อยขนาดไหน และให้เข้ามาแจ้งความในภายหลังต่อไป