ตาก-ฝนตกหนัก น้ำป่าหลาก ลำห้วยแม่ละเมาสูงล้นตลิ่งทะลักท่วมหมู่บ้านฉับพลัน ถนนเข้าออกถูกตัดขาด สัญจรผ่านไม่ได้ เร่งอพยพชาวบ้าน หนีน้ำป่าชุลมุน หนักสุดรอบ10ปี
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 65 อิทธิพลโนรู และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนยาวถึงเที่ยงวัน ทั่วทุกพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะ ชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก สถานีตรวจวัดปริมานน้ำฝน ตำบลพะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก วัดปริมาณน้ำฝนได้สูง 120 มม. ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าจากภูเขาสูงเหนือ หมู่บ้านบ้านแม่ละเมาสามัคคี หมู่ที่ 9 ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก
ที่ลำห้วยแม่ละเมา รับปริมาณน้ำป่าที่ไหลบ่าลงมาจากภูเขาสูงจำนวนมาก จนมวลน้ำล้นตลิ่งสูงกว่า 1 เมตร ก่อนทะลักไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 2 หมู่บ้าน หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 9 สร้างความโกลาหลไปทั่วสองหมู่บ้าน เนื่องจากน้ำป่าสีแดงขุ่น มีความรุนแรง กระแสน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากพัดพาทุกอย่างที่ขวางหน้าลอยไปกับกระแสน้ำ ส่วนฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดต้อง ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินดังไปทั่วหมู่บ้าน ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักแบบไม่ขาดสาย
ด้านนายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 พร้อม ตำรวจ สภ.พะวอ เร่งเข้าไปให้ช่วยเหลือชาวบ้าน 60 หลังคาเรือน เร่งทำการขนย้ายสิ่งของทุกชนิดขึ้นไปบนพื้นที่สูง พร้อมนำผู้สุงอายุและเด็กเล็กย้ายไปหลบภัยในพื้นที่รองรับที่ทางราชการจัดไว้ให้ ซึ่งโชคดีที่น้ำป่าถล่มหมู่บ้านในครั้งนี้ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงพื้นที่เกษตรของชาวบ้านเสียหายเป็นวงกว้างและสัตว์เลี้ยงหลายชนิดและทรัพย์สินบางส่วนของชาวบ้านที่ขนย้ายหนีน้ำป่าไม่ทันลอยน้ำสูญหายไปกับกระแสน้ำป่าหลายรายการ
นายสุพจน์ กาใจ กำนันตำบลพะวอ กล่าวว่า ฝนได้ตกหนักตลอดทั้งคืนเหนือภูเขาตัวตัวหมู่บ้าน ตนเองได้ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านที่มีบ้านเรือนสร้างติดกับสองแนวตลิ่งติดลำห้วยแม่ละเมาให้รีบขนย้ายสิ่งของโดยด่วน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าน้ำป่าจะมาจะมาเร็วและมีความรุนแรงมาก ซึ่งทำให้สะพานเชื่อมต่อถนนทางเข้าออกหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ส่วนผลกระทบต่อทรัพย์สินทั้งของทางราชการและของประชาชนอยู่ระหว่างการสำรวจต้องรอน้ำลดระดับลงก่อนถึงจะสำรวจได้ เนื่องจากขณะนี้มีรายงานว่า ยังคงมีฝนตกหนักบนภูเขาต้นลำห้วยแม่ละเมา ขณะนี้จัดชุดแจ้งข่าวของหมู่บ้านเฝ้าตรวจดูระดับน้ำตลอดค่ำคืนนี้ ซึ่งเป็นน้ำท่วมหนักสุดในรอบ10ปี
ขณะเดียวกัน บนถนนสายแม่สอด-ตาก ซึ่งฝนตกหนักส่งผลกระทบทำให้ถนนเกือบตลอดทั้งสายถูกหมอกหนาทึบปกคลุมไปทั่วถนน ทั้งที่เป็นช่วงเวลากลางวัน ส่งผลทำให้รถทุกชนิดต้องเปิดไฟหน้ารถเป็นสัญญาณเตือนในระยะไกล เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเกิดหมอกลงหนาทึบบนเส้นทางดังกล่าว
นอกจากนี้สองไหล่ทางบนถนนแม่สอด-ตาก ซึ่งเป็นไหล่เขาและหน้าผาสูงชัน ฝนที่ตกหนักหลายวันส่งผลทำให้ดินภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหว เกิดการสไลด์ตัวลงจากยอดเขาสูงไหลทับเส้นทางสองจุด คือช่วง กม.52 เขตดอยคาดิน ปิดทับเส้นทางรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางเดินรถสวนเลนเป็นกรณีพิเศษ จนเกิดรถติดยาวสะสมบนถนนส่วนช่วง กม.34 ช่วงดอยห้วยไม้หก เกิดหินภูเขาและดินยุบตัวไหลลงมาบนถนนล้นแนวป้องกันและขณะนี้ทั้งดินและหินยังคงไหลลงมาจากยอดภูเขาอย่างต่อเนื่องจากฝนที่ตกไม่หยุด
ล่าสุดเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงตากที่ 1 และที่ 2 ได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่ไปติดป้ายเตือนอันตรายในทุกจุดเสี่ยงภัยดินสไลด์และหินร่วง เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังอันตรายในช่วงสัญจรผ่านในจุดเกิดเหตุ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว