กรมอุตุฯ แจ้งไทยเข้าสู่ฤดูหนาว 23 ตุลาคมนี้ กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาฯ ยอดดอยต่ำกว่า 8 องศาฯ ด้านพายุเฟิงเฉิน ส่งผลให้อีสาน-ภาคใต้ มีฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วน จ.พังงา น้ำป่าซัดเขาหลัก ถนนเพชรเกษมจมบาดาล ผู้ว่าฯ สั่งระดมเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายจากพื้นที่แต่เอาไม่อยู่

น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และโฆษกกระทรวงดีอี แถลงว่า ปีนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ วันที่ 23 ตุลาคม25568 โดยจากข้อมูลพบว่าในภาคเหนือสภาพอากาศเข้าเกณฑ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาในการพิจารณาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งอุณหภูมิของประเทศไทยตอนบนจะลดลงอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในเกณฑ์เย็นหรือหนาว อยู่ในเกณฑ์อุณหภูมิต่ำกว่า 23 องศาฯ เกือบทั่วพื้นที่

อีกทั้งปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มลดลงต่อเนื่อง อากาศจะเริ่มเย็นลงปลายเดือนตุลาคม 2568และเข้าสู่ฤดูหนาว วันที่ 23ตุลาคม 2568 โดยอากาศจะเริ่มเย็นลงและคาดว่า จะสิ้นสุดลงช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2569 อากาศโดยทั่วไปในฤดูหนาวในปีนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่ 21-22 องศาฯ ช่วงที่จะได้สัมผัสอากาศหนาวจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม 2568-มกราคม 2569 โดยเฉพาะยอดดอย อุณหภูมิอาจต่ำกว่า 8องศาฯ ส่วนกทม.อุณหภูมิต่ำสุด 18-20องศาฯ

ด้าน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ “เฟิงเฉิน” ฉบับที่ 8 (299/2568) ระบุว่า พายุโซนร้อน “เฟิงเฉิน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ประมาณ 470 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพายุนี้มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นอีกและจะเคลื่อนเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางช่วงวันที่ 22-23 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้ตอนบน โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

จากอิทธิพลของพายุ “เฟิงเฉิน” ส่งผลให้ช่วงวันที่ 22-23 ตุลาคม 2568 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมีร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ที่ จ.พังงา ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาวง ไหลเข้าท่วมถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า–ท้ายเหมือง อย่างหนักโดยระดับน้ำบนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่หนองมูลตะกั่วจนถึงซอยนายเท่ง สูงประมาณ 30–50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก และบางช่วงเกิดการจราจรติดขัดเป็นทางยาว ซึ่งทางตำรวจ สภ.เขาหลักหน่วยกู้ภัย และเทศบาล ต.คึกคัก ต้องเร่งอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางดังกล่าว

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ได้สร้างความเดือดร้อนซ้ำซากให้กับประชาชนร้านค้า ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากพื้นที่น้ำท่วมเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมอย่างสูงแม้ว่าก่อนหน้านี้ ผวจ.พังงา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ และดำเนินโครงการ วางท่อลอดถนนขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างเสร็จสิ้นได้ไม่นาน แต่กลับพบว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ได้ทางจังหวัดจึงขอความร่วมมือให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เชิงเขา ริมคลอง และพื้นที่ลาดชัน ติดตามประกาศแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทางน้ำตกและถนนที่อาจถูกตัดขาด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน