บริษัทฟอร์ด ประเทศไทย แจงปมดรามาลูกค้าใช้ชะแลงปีนทุบรถป้ายแดง เพิ่งซื้อด้วยเงินสด 1.47 ล้านบาท และขับไม่ถึง 1,000 กิโลเมตรแต่กลับพบปัญหาเพียบ ด้านบริษัทตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลูกค้ามีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม
จากกรณีเกิดประเด็นดรามา เมื่อมีหญิงรายหนึ่งใช้ชะแลงปีนขึ้นบนรถป้ายแดงของตัวเองก่อนลงมือทุบบริเวณหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา โดยผู้เสียหายเผยว่าตนนั้นเพิ่งซื้อด้วยเงินสด 1.47 ล้านบาทเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ขับไปได้แค่ 938 กิโลเมตร ปรากฏว่ารถมีปัญหาหลายอย่าง โดยศูนย์ให้เตรียมเงินสด 3-4 แสนบาทสำหรับซ่อม เมื่อร้องเรียนศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคเรื่องก็เงียบหาย
ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ย.) “ฟอร์ด” ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า “จากเหตุการณ์ที่ลูกค้าฟอร์ดในจังหวัดนครราชสีมาทุบรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 บริษัทขอชี้แจงดังนี้
จากการที่ลูกค้ามีความกังวลใจเรื่องการแสดงสัญญาณแจ้งเตือนของระบบตรวจวัดแรงดันลมยางไม่ถูกต้อง บริษัทได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลูกค้ามีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์บางรุ่นอาจส่งคลื่นความถี่ที่มีผลต่อระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) บริษัทจึงแนะนำให้ลูกค้าถอดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวออก ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ และได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าต่อไป”