
เวทีเสวนาที่ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง สะท้อนวิกฤติราคายางพาราและปาล์มน้ำมันเกิดจากวัฏจักรและการขาดยุทธศาสตร์ชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญและเกษตรกร เสนอแก้ปัญหาผ่านการพัฒนาเชิงระบบ เพิ่มมูลค่าผลผลิต และเสริมความเข้มแข็งของชุมชน
เมื่อวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568 มีการจัดเสวนาในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขัน ภายใต้หัวข้อ “ราคาปาล์ม–ยางดิ่ง: ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?” ณ ห้องโสตทัศนศึกษา โรงเรียนบางแก้วพิทยาคม อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง โดยมีวิทยากรและเกษตรกรกว่า 200 คนเข้าร่วม
นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดพัทลุง
นายธวัช เพชรรัตน์ นักเศรษฐศาสตร์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยะลาน้ำมันปาล์ม จำกัด กล่าวว่า สินค้าเกษตรมีลักษณะเป็นวัฏจักร ราคามีทั้งขึ้นและลง และเมื่อมีการส่งเสริมให้ปลูกมากเกินความต้องการ ผลผลิตย่อมล้นตลาด นำไปสู่ภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำลังการผลิตของโรงงานไม่เพียงพอ ทำให้ราคาตกต่ำและเกษตรกรต้องขายในราคาที่ต่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณของตลาดล้มเหลว
เขาเตือนว่า หากยังส่งเสริมให้ปลูกเพิ่มโดยไม่ขยายกำลังการแปรรูป วัฏจักรนี้จะเกิดซ้ำรุนแรงขึ้น เช่น เกษตรกรต้องรอคิวส่งผลผลิตหรือถูกปฏิเสธรับซื้อ โดยเฉพาะในจังหวัดพัทลุงซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวและมีข้อจำกัดสูงในการตั้งโรงงาน หากไม่มีการพัฒนาแบบครบวงจร ปัญหาล้นตลาดจะยืดเยื้อต่อไป
ด้านนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) ระบุว่า ราคายางพาราขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤติ แต่การโค่นยางไปปลูกพืชอื่น เช่น ทุเรียนหรือปาล์มน้ำมัน ไม่ใช่คำตอบ เพราะยังมีความเสี่ยงและข้อจำกัดเช่นเดิม ทางออกที่ยั่งยืนคือการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ควบคู่กับการลดรายจ่าย
นายนันทปรีชา คำทอง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้ว่ายุทธศาสตร์ปาล์มน้ำมันยังขาดเอกภาพ ไม่มีการกำหนดสัดส่วนการใช้เพื่อบริโภคและพลังงานที่ชัดเจน จึงทำให้ราคาผันผวน พร้อมสนับสนุนแนวทาง “เกษตรแปลงใหญ่” เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและการบริหารจัดการอย่างมีระบบ รวมถึงการกำหนดโซนนิ่งพื้นที่ปลูกอย่างเหมาะสม
ขณะที่นายอดุลย์ ฑุติยะกุลพันธ์ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดพัทลุง เห็นว่า ปัญหามาจากนโยบายรัฐและทิศทางเกษตรที่ไม่สอดประสานกัน จึงควรส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ลดต้นทุน และเข้าถึงการสนับสนุนจากรัฐ
ดร.วันเฉลิม จันทรากุล ผู้อำนวยการภาคใต้ทีวี
ดร.วันเฉลิม จันทรากุล ผู้อำนวยการภาคใต้ทีวี และผู้ประสานงานเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ราคายางและปาล์มน้ำมันผันผวนจากปัจจัยซับซ้อนทั้งในและต่างประเทศ ไทยจึงจำเป็นต้องมีระบบบริหารจัดการราคาที่เข้มแข็ง ควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ พร้อมเสนอ 5 แนวทางหลัก ได้แก่ การทำเกษตรมูลค่าสูง, ใช้นวัตกรรมเพิ่มมูลค่า, รวมกลุ่มสร้างอำนาจต่อรอง, พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเชื่อมโยงการท่องเที่ยว และผลักดันกลไกรับประกันราคา
“ราคายางหรือปาล์มอาจร่วงลง แต่ความหวังของเกษตรกรไม่ควรร่วงตาม” ดร.วันเฉลิมทิ้งท้าย พร้อมย้ำถึงการเปลี่ยนบทบาทจากผู้ปลูกเพียงอย่างเดียวไปสู่ผู้ประกอบการเกษตร และการรวมพลังขับเคลื่อนนโยบายเพื่อความยั่งยืนในอนาคต
นายนันทปรีชา คำทอง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.)
นายอดุลย์ ฑุติยะกุลพันธ์ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดพัทลุง
นายธวัช เพชรรัตน์ นักเศรษฐศาสตร์