หลังจากการประชุมเจบีซี ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้บรรลุข้อตกลง 13 ข้อหยุดยิงชั่วคราว และคืนสันติสุขให้กับประชาชนตลอดแนวชายแดนอีสานใต้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา สร้างความดีใจให้กับประชาชนที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดตามปกติ หลังจากต้องอพยพหนีภัยการสู้รบไปอยู่ศูนย์พักพิงต่างๆมานานกว่าสัปดาห์

เช่นเดียวกับ “ยายน้อย” แม่ของ นางสาว รุ่งรัศ ประชัน ผู้ที่สูญเสียทั้งลูกสาว และหลานๆ ถึง 3 คนในคราวที่ลูกปืนใหญ่มาตกในปั้มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ อ.กันทราลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยได้มาพักพิงที่ศูนย์อพยพมรกรมชลประทาน วันนี้ขอกลับบ้าน เกิด แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่า จะอยู่ได้อย่างไรเมื่อไม่มีลูกสาวและหลานเหยื่อกระสุนปืนทหารกัมพูชาที่ได้ทำการเผาร่างทั้ง 3 ศพไปก่อนหน้านี้แล้ว

จำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ

นับตั้งแต่เสียงปืนใหญ่ของกัมพูชา ดังขึ้นตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อช่วงสาย ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยที่หมู่บ้านภูมิชรอล และอีกหลายหมู่บ้าน ในตำบลเสาธงชัย ตำบลสังเม็ก ตำบลขนุน ตลอดแนวชายแดน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการยิงปะทะกัน ทำให้ทุกคนที่เคยมีประสบการณ์ และได้ร่วมประชุมซักซ้อมการอพยพ ได้อพยพออกจากหมู่บ้านทันที

ขณะที่ลูกปืนใหญ่ถูกยิงเข้ามาตกลึกถึง ปั้มน้ำมัน ตกลงที่ร้านสะดวกซื้อ บ้านผือใหม่ ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ ที่หลายคนกำลังมาเต็มน้ำมัน เพื่ออพยพ มาซื้อข้าวของไปกักตุน ขณะลูกปืนใหญ่กัมพูชาตกมาในเขตพลเรือน 5 ครอบครัว เสียชีวิตทันที่ 8 คน โดยเสียชีวิตอยู่ในร้านสะดวกซื้อ 7 คน เสียชีวิตในสวนบริเวณด้านหลังร้านอีก 1 คน ยังความเสียใจกับญาติเป็นอันมาก และจากนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่สามารถนำอัฐิไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดได้ ได้มาพักพิงที่ศูนย์อพยพชั่วคราวในตัวจังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้การดูแลของกรมชลประทานศรีสะเกษ ทั้งที่พัก ที่หลับนอน อาหาร 3 มื้อ พร้อมการปลอบขวัญทุกคืนวัน

โดยวันนี้คุณยาย น้อย มารดาของ นางสาวรุ่งรัศ และหลานๆ ครอบครัวประชัน กล่าวว่า วันนี้ยายขอกลับบ้านก่อน พรุ่งนี้จะห่อข้าวต้ม เริ่มเตรียมทำบุญอัฐิ ทำบุญกระดูก โดยเย็นวันที่ 10 สิงหาคม 2568 จะนิมนต์พระมาสวดมนต์เย็นที่บ้าน เช้าของวันที่ 11 สิงหาคม 2568เวลา 07.00 น.จะมีพิธีทำบุญตักบาตรเช้า ทำบุญเสร็จก็จะนำอัฐิไปลอยอังคารที่ทะเล จังหวัดระยอง ที่ที่เคยไปเที่ยวด้วยกันในหน้าร้อนทุกๆ ปี เพราะเขาชอบมาก ทั้งแม่ ทั้งลูก หลาน รวม 4 คน ซึ่งก็ยังคิดไม่ออกมาว่ากลับไปแล้วนึกถึงภาพเก่าๆ ที่หลานๆ มาหยอก มาคุยด้วย มาอ้อนขอเงินไปโรงเรียน แล้ววันนี้มีไม่หลานๆ มาเช่นเดิม ตนจะทำใจได้ไหม

ขณะที่ นายจำรัส สวนจันทร์ ชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ที่นี่นอกจากจะดูแลในเรื่องที่พักให้สบายที่สุด เรื่องอาหารก็จะต้องสะอาดปลอดภัย เพราะเป็นผู้ประสบภัยกรณีพิเศษ เป็นผู้ที่สูญเสียมากที่สุด ไม่ใช้ผู้อพยพธรรมดา แต่สูญเสียลูก หลาน 5 ครอบครัว รวม 7 คน ในจัดเดียวที่ปั้ม ปตท.ในร้านสะดวกซื้อ เราได้ดูแลในเรื่องจิตวิทยา มีนักจิตวิทยามาช่วยดูแล อย่างน้อยวันนรี้ที่จะขอกลับบ้าน ให้มีรอยยิ้มกลับไป และหากมีอะไรเกิดขึ้นอกี เราก้ยินดีที่จะรับกลับมา แต่หากไม่มีอะไรเราก็จะติดตามดูแลด้วยเช่นกัน

ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ มีทั้งหมด 5 ครอบครัว จาก 7 ชีวิตที่เป็นเหยื่อภัยทางอากาศของการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ได้ขอเดินทางกลับบ้านวันนี้ ซึ่งชุด EOD เก็บกู้ ทำลายระเบิดที่ตกค้างตามบ้านเรือน ไร่นา สวนยางพารา ตามแนวชายแดน ยังเดินหน้าต่อไปทุกวัน ขอแจ้งเตือนชาวบ้านว่า หากพบเจอระเบิด หรือสงสัยว่าจะเป็นหัวลูกปืนใหญ่ อย่าได้เข้าไปใกล้ อย่าได้ไปทำอะไร ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ชุด ชรบ. เพื่อแจ้งปกครองอำเภอ ทันที เอการเข้าไปตรวจสอบ ทำลายก่อนต่อไป

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน