ภายหลังจาก นายเสกสันน์ ทรัพย์แสนสุข หรือ “หมอบี” หอบเอกสาร 3 ถุงใหญ่เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน กรณีเปิดบัญชีรับบริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุ กว่า 3 ชั่วโมง

 

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม(รองผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าว่า เรื่องนี้มีผู้มาแจ้งให้ทางตำรวจกองปราบตรวจสอบตั้งแต่ประมาณต้นเดือน มี.ค. ว่าพบข้อพิรุธของการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีหมอบี โดยเป็นบัญชีที่เปิดรับบริจาคผ่านเฟซบุ๊ก บัญชีนี้เปิดตั้งแต่ปี 62 เป็นบัญชีประเภทในนามบุคคล ซึ่งหมอบีมีอำนาจในการเบิกถอนได้เพียงผู้เดียว

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบมีการเบิกถอนมากกว่า 100 ครั้ง ยอดรวมประมาณกว่า 200 ล้านบาท โดยพบการถอนเงินในจำนวนนี้แล้วเอาไปให้เจ้าอาวาสไม่ครบ ยกตัวอย่างมีบางรายการเบิกกว่า 3 ล้าน แต่มอบให้หลวงพ่อไม่ครบตามยอดเบิก

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และวัดยังไม่ได้แจ้งความ จึงยังไม่เป็นคดีความ แต่กองปราบรับเรื่องแล้ว ก็ส่งตำรวจไปพบเจ้าอาวาส เพื่อขอข้อมูล ในวันนี้หมอบีมาเพื่อลงบันทึกประจำวัน และนำเอกสารที่เกี่ยวกับการเงิน มาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และยืนยันว่าไม่หลบหนี

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า กรณีที่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนที่จะมีหมายเรียกหรือหมายจับนั้น เป็นสิทธิของหมอบีที่สามารถกระทำได้ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อรูปคดี หากพบกระทำความผิดก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดทางอาญาแผ่นดิน

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ไปซื้อที่ดินเป็นชื่อของตัวเองอ้างเป็นสถานปฏิบัติธรรม ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากเงินที่นำไปซื้อที่ดินนั้น เป็นเงินของวัดที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยให้คำจำกัดความว่า บัญชีที่เปิดรับบริจาคให้กับวัด จะต้องเข้าวัดทุกบาททุกสตางค์ แต่ต้องดูเจตนาเป็นหลักด้วย

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นำเงินไปใช้ส่วนตัว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูลกระทำความผิด ฉะนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองให้ได้ ส่วนเจ้าอาวาสหรือคณะกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความผิดด้วยหรือไม่ จะต้องหาข้อพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าหมอบีทำผิดจริงหรือไม่ และต้องดูเจตนาของวัดว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำคนสนิทของหมอบีแล้ว รวมถึงคนสนิทที่ได้รับมอบอำนาจไปเบิกถอนเงิน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีเงินวัดไปแล้ว และยังมีอีกหลายส่วนที่จะต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม