“ทรัมป์”ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทนใหม่ที่พวกเขาจะเก็บจากหลายสิบประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งถูกตั้งกำแพงภาษีไว้ที่ 19% เท่ากับกัมพูชา มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา ประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทนใหม่ที่สหรัฐฯ จะเก็บจากสินค้าของประเทศต่างๆ ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขา ในคืนวันที่ 31 ก.ค. 2568 หรือเพียงไม่นานก่อนที่เส้นตายการบังคับใช้ภาษีจะมาถึงในวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยตารางอัตราภาษีใหม่นี้ระบุว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีต่างตอบแทนจากสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยในอัตรา 19%

ส่วนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนก็โดนภาษีในอัตราแตกต่างกันไป โดยกัมพูชา, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดนเก็บภาษี 19% เวียดนาม 20% บรูไน 25% ลาวกับเมียนมาโดนภาษีอัตราสูงถึง 40% แต่ไม่มีสิงคโปร์อยู่ในตาราง โดยสหรัฐฯ ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะเก็บสิงคโปร์เพียงภาษีพื้นฐาน 10% เท่านั้น

ส่วนประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีมากที่สุดตามตารางล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ออกมาคือ ซีเรีย ถูกตั้งกำแพงภาษีที่ 41%

อัตราภาษีแบบต่างตอบโต้ของประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับรัฐบาลทรัมป์แล้ว ได้แก่
เวียดนาม 20 %
อินโดนีเซีย 19 %
ฟิลิปปินส์ 19 %
ไทย 19 %
กัมพูชา 19 %
มาเลเซีย 19 %
สิงคโปร์ 10 %

อัตราภาษีสวมสิทธิ์หรือทางผ่าน :
เวียดนาม 40 %
อินโดนีเซีย 19% บวกเพิ่มภาษีต่างตอบโต้ของประเทศนั้นๆ
ฟิลิปปินส์ ไม่ระบุ
ทั้งนี้ ภาษีสวมสิทธิ์ หรือ ภาษีทางผ่าน (Transshipment) คือภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากสินค้าที่สหรัฐสงสัยว่ามีการ ‘สวมสิทธิ์’ หรือเปลี่ยนแปลงแหล่งกำเนิดสินค้า จากประเทศหนึ่งมายังประเทศผู้ส่งออก ก่อนส่งออกไปยังสหรัฐ อีกที เพื่อประโยชน์ด้านภาษี