
กองทัพอิสราเอลขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา หวังสร้างเขตกันชน หลังการโจมตีทางอากาศในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 500 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ระบุว่า ได้ขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซาออกอีก โดยให้กองทัพเคลื่อนกำลังเข้าไปลึกจนถึง “เน็ตซาริม คอร์ริดอร์” ถนนสายสำคัญที่แบ่งแยกส่วนเหนือกับส่วนใต้ของฉนวนกาซาออกจากกัน โดยมีป้าหมาย เพื่อสร้าง “พื้นที่กันชนบางส่วน” ระหว่างส่วนเหนือกับส่วนใต้ของฉนวนกาซา
ก่อนหน้านี้ในวันอังคารที่ผ่านมา อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างดุเดือดรุนแรงทั่วฉนวนกาซา สังหารผู้คนไปกว่า 400 คน บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน ทั้งนี้ตามรายงานของพวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชาวปาเลสไตน์ ถือเป็น 1 ในวันที่มีการสูญเสียชีวิตสูงที่สุดนับตั้งแต่การสู้รบขัดแย้งคราวนี้เริ่มต้นขึ้นมา และเป็นการปิดฉากระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่เหตุการณ์ค่อนข้างเงียบสงบนับจากที่อิสราเอลกับฮามาสทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกันได้ในเดือนมกราคม
ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้ละเมิดการตกลงหยุดยิงครั้งนี้ ซึ่งทำให้ประชากร 2.3 ล้านคนของกาซามีเวลาพักหายใจบ้าง หลังจากเผชิญสงครามมา 17 เดือน โดยที่รัฐยิวถล่มโจมตีทั่วทั้งกาซาจนเหลือแต่กองซากปรักหักพัง อีกทั้งบังคับให้ผู้คนเกือบทั้งหมดในกาซาต้องกลายเป็นคนพลัดบ้านเรือนต้องอพยพกันครั้งแล้วครั้งเล่า
ทางด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงในวันอังคารว่า สั่งการให้โจมตีกาซาหลังจากฮามาสปฏิเสธข้อเสนอขยายข้อตกลงหยุดยิง
ผู้นำอิสราเอลยังเรียกร้องให้ชาวกาซาอพยพออกจากพื้นที่ที่มีการโจมตีไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า และโทษว่า การล้มตายของพลเรือนเป็นผลจากฮามาส พร้อมขู่ว่า นับจากนี้อิสราเอลจะใช้กำลังจัดการกับฮามาสรุนแรงขึ้น และการเจรจาจะเกิดขึ้นท่ามกลางการสู้รบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ฮามาสรู้ฤทธิ์อาวุธของอิสราเอลแล้วจากการโจมตีในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น