
ตำรวจ 191 บุกรวบจับหนุ่มซุกหัวพอตยาเค คาบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง ของกลางเพียบ สารภาพขายให้นักเที่ยวท่องราตรีใช้เริงรมย์
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., , พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ, รอง ผบก.สปพ., สั่งการให้พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ,พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์,พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม ,พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ร.ต.ต.ไพโรจน์ จำนงค์ รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ นำกำลังจับกุมนายปวริศร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ,น.ส.อรวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี น.ส.วรรณวิสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง ยาอี 53 เม็ด ,คีตามีน น้ำหนักรวมประมาณ 96.43 กรัม ,หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า (พอตเค) จำนวน 367หัว Happy Water ซองสีแดง ยี่ห้อ Supreme จำนวน 4 ซอง บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง จำนวน 38 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณหมู่บ้านย่านวังทองหลาง
สืบเนื่องจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร .ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร.พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง จนมีการสืบสวนทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าพอต ผสมยาเสพติดเมทแอมแฟตามีน หรือพอตเค กำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายของกลุ่มวัยรุ่น แฝงมาในรูปแบบบุหรี่ไฟฟ้า ตามสถานบันเทิงกลางคืน ในพื้นที่ กทม. และพบว่านายปวริศร์ เป็นผู้ลักลอบจำหน่ายในราคาหัวละ2,000- 3,000 บาท จึงสืบสวนกระทั่งพบวาาพักอาศัยและจัดเก็บ “พอตเค” อยู่ที่บ้านดังกล่าว และจับกุม ก่อนที่นายปวริศร์จะให้การซัดทอดว่าได้ติดต่อสั่งซื้อพอตเค มาจากน.ส.อรวรรณและ น.ส.วรรณวิสา จึงนำกำลังจับกุมได้พร้อมของกลางพอตเค ภายในคอนโดหรู ย่านรัชดาฯ
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหามีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี, Happy Waterหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด ตามมาตรา 246พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560” นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป