หน้าแรก ทั่วไป โครงการพัฒนาเครือข่ายดูแลทางสังคมฯนำร่องเปลี่ยนระบบสู่ดิจิทัลเชื่อมต่อระหว่างสหวิชาชีพ

โครงการพัฒนาเครือข่ายดูแลทางสังคมฯนำร่องเปลี่ยนระบบสู่ดิจิทัลเชื่อมต่อระหว่างสหวิชาชีพ

โครงการพัฒนาเครือข่ายดูแลทางสังคมฯ นำร่องเปลี่ยนระบบสู่ดิจิทัล เชื่อมต่อระหว่างสหวิชาชีพใช้เครื่องมือโซเชียลเทเลแคร์เพื่อให้ผู้ได้รับการดูแลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวบรวมข้อมูลทำหนังสือSocial Telecare จุดเปลี่ยนวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มุมมองการทำงาน

นายแพทย์พรเพชร ปัญจปิยะกุล ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาและเสริมสมรรถนะกลไกและเครือข่ายการดูแลทางสังคมของสหวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อขยายผลการทำงานในระดับพื้นที่ของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์  หรือโครงการโซเชียลเทเลแคร์ฯ  กล่าวว่า ระบบของโครงการฯที่ผ่านมามีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นโครงการฯนำร่องในการเปลี่ยนระบบการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิทัล และเป็นการสร้างเครือข่าย ทั้งการออกแบบ แบบฟอร์มและพัฒนารูปแบบผ่านระบบดิจิทัล ในการใช้เครื่องมือเพื่อเชื่อมต่อระหว่างสหวิชาชีพ ต่างๆรวมไปถึงตัวนักสังคมสงเคราะห์ในการประสานการทำงานร่วมกับโรงพยาบาล

ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้ป่วย ซึ่งโจทย์ต่อไปในอนาคตจะต้องนำการขับเคลื่อนโครงการต่างๆกระจายไปในทุกพื้นที่ให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักสังคมสงเคราะห์ที่ต้องเดินหน้าทำงานร่วมกับสหวิชาชีพในด้านอื่นๆ พร้อมเชื่อว่าจากองค์ความรู้ในครั้งนี้จะได้มีการพัฒนา สร้างการเรียนรู้ให้กับนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าโครงการในลำดับต่อไปจะดำเนินการให้ โรงพยาบาลต่างๆใช้เครื่องมือและสามารถปฏิบัติตามอัตรางบประมาณและสามารถเบิกจ่ายได้ ตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ

นายแพทย์พรเพชร ปัญจปิยะกุล 

แพทย์หญิงสายรัตน์ นกน้อย ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาและเสริมสมรรถนะกลไกและเครือข่ายการดูแลทางสังคมของสหวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อขยายผลการทำงานในระดับพื้นที่ของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์  กล่าวถึงภาพรวมในการดำเนินโครงการฯว่าจะช่วยให้คนที่อยู่ในพื้นที่แตกต่างกันได้ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและผู้ที่ขาดโอกาสทางสังคมได้บูรณาการทำงานโดยใช้เครื่องมือของนักสังคมสงเคราะห์เพื่อให้ผู้ได้รับการดูแลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ รวมทั้งมีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยเสริมพลังในส่วนที่ขาดแคลนนักสังคมสงเคราะห์

ซึ่งมองว่าปัจจัยทางสังคมเป็นสิ่งที่กำหนด สุขภาพที่สำคัญงานของนักสังคมสงเคราะห์มีความสำคัญในการช่วยเหลือ ในปัจจัยที่เป็นส่วนพร่องเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีในการพัฒนาเครื่องมือจะทำให้เกิดการดูแล ในประเด็นทางด้านสังคมสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยจะมีการดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ สามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ในภาพรวม และสิ่งสำคัญคือการติดตามในระยะยาว จากการทำงานของโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปในอนาคต

แพทย์หญิงสายรัตน์ นกน้อย 

ขณะที่นายวรเชษฐ์ เชียวจันทร์ นักวิชาการอิสระ กล่าวถึงหนังสือSocial Telecare จุดเปลี่ยนวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ที่ทีมนักเขียน ซึ่งประกอบด้วยนักสังคมสงเคราะห์และเครือข่ายสหวิชาชีพ 31 คน ได้รวบรวมบทเรียนและแนวทางการทำงานของนักสังคมสงเคราะห์และทีมสหวิชาชีพหลายรุ่น ว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นบทเรียนสำคัญเพราะสะท้อนการทำงานของนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ที่ได้ร่วมทำงานกับสหวิชาชีพ เพราะในเนื้อหามีการพูดถึงพื้นที่

แต่ละพื้นที่ว่ามีการดำเนินการอย่างไร รวมถึงความคิด มุมมองและรูปแบบการทำงานที่ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลเทเลแคร์ ทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการทำงานของนักสังคมสงเคราะห์มีความน่าสนใจ และเป็นประโยชน์ในการทำงาน ซึ่งสิ่งสำคัญของผู้ได้รับประโยชน์คือประชาชนรวมทั้งกลุ่มเปราะบางที่เข้ารับบริการ