ผบ.ตร. ลงนาม ไล่ออก “บิ๊กโจ๊ก” ผิดวินัยร้ายแรง  งดบำเหน็จ-บำนาญ เผย “เจ้าตัว” ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ

พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค 3 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ที่มี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากได้กระทำผิดร้ายแรงกรณีพัวพันเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ทั้งนี้ ตามขั้นตอน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.พ.ค.ตร.ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ ผบ.ตร.ลงนามคำสั่งมีผล จากนั้น ก.พ.ค.ตร.มีกำหนดระยะเวลาพิจารณา 120 วัน ขยายเวลาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 60 วัน รวมทั้งสิ้น 240 วัน หาก ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัยเป็นคุณกับผู้กล่าวหา อุทธรณ์ฟังขึ้น ตร.จะต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหากลับเข้ารับราชการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ ก.พ.ค.ตร.มีคำวินิจฉัย หาก ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัยเป็นโทษ ยืนตามคำสั่ง ตร.ที่ให้ไล่ออกจากราชการ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถฟ้องศาลปกครองสูงสุดภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัย

สำหรับ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเป็นที่สุด (ระยะเวลาการพิจารณา ประมาณ 1-2 ปี) ซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดการลงโทษไล่ออกของ ผบ.ตร.เป็นไปตามกฏหมายถูกต้อง ตร.จะต้องดำเนินการในเรื่องการเสนอเพื่อถอดยศ และให้คืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่อไป