อุทัยธานี – เปิดประสบการณ์ชาวนาอุทัยฯหนีแล้ง หยุดทำนาปรัง-ทิ้งผืนนากว่า 30 ไร่ ลองปลูกฟักทองเงือกสองใจ-มันลืมผัว-หอมใบเตย แค่ 3 พันธุ์ที่ตลาดต้องการ-ใช้เนื้อที่แค่ 3-4 ไร่ รับออเดอร์ออนไลน์-เก็บส่งทุกวัน สร้างรายได้สุดว้าวสูงถึงกว่า 3 แสนบาท

ปีนี้แม้หลายพื้นที่เริ่มเจอกับภัยแล้ง รวมถึงราคาข้าวตกต่ำ ขณะที่ชาวนาหลายรายยังคงวัดดวงลงทุนทำนาปรังกันเหมือนทุกปี แต่มีชาวนาอีกจำนวนไม่น้อยที่ถอดใจ หยุดทำนาปรังและปรับเปลี่ยนปลูกพืชอื่นแทน เช่นแปลงนานางรัชยา พิมมั่น อายุ 49 ปี หนึ่งในชาวนา หมู่ 6 ต.หนองยาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ที่ตัดสินใจหยุดทำนาปรัง-ปล่อยทิ้งที่นากว่า 30 ไร่ ลองปลูกฟักทอง สายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ด้วยเนื้อที่เพียง 3-4 ไร่ กลับสร้างรายได้ถึง 300,000 บาท ในระยะเวลาที่เท่ากับปลูกข้าวนาปรัง แต่ใช้พื้นที่น้อยกว่า ใช้น้ำน้อยกว่า อีกทั้งยังลงทุนน้อยกว่ามากอีกด้วย

นางรชยา พิมพ์มั่น อายุ 49 ปี หรือ พี่แคท เล่าว่า ปกติทุกปีตนก็จะทำนาปรังเหมือนคนอื่นๆ แต่ปีนี้แล้งมาก น้ำในสระที่เก็บสำรองไว้มีไม่พอที่จะทำนาถึง 30 ไร่ได้ ประกอบกับปีที่แล้วนาปรังที่ทำก็โดนแมลงบั่วลงข้าวเสียหายไปเยอะมาก ทำให้ได้ผลผลิตไม่ดี ปีนี้จึงตัดสินใจไม่ทำนาปรัง

และลองมาปลูกฟักทอง สายพันธุ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด คือ พันธุ์เงือกสองใจ พันธุ์มันลืมผัว และ พันธุ์หอมใบเตย ส่งขายในราคากิโลกรัมละ 100 บาททุกสายพันธุ์ ข้อดีของการปลูกฟักทองก็คือ ใช้น้ำน้อย ดูแลไม่ยาก และปลอดสารเคมี มีอายุการเก็บเกี่ยวที่ 120 วัน ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เนื้อที่เพียงแค่ 3-4 ไร่ เท่านั้น

“แปลงฟักทองของตนจะใช้ระบบน้ำหยด และฟักทองทุกลูกจะมีการจดบันทึกวัน-จำนวนลูกที่ผสมไว้ ทำให้เรารู้เก็บเกี่ยวได้ตรงวัน ซึ่งฟักทองที่ปลูกรวมทั้ง 3 พันธุ์นี้ เนื้อที่ 3-4 ไร่ ให้ผลผลิตมากถึง 1,700 ลูกเลย ช่องทางการขายหลักๆตอนนี้จะเป็นการขายออนไลน์ และมีมาเลือกซื้อที่หน้าสวนด้วยบ้างเล็กน้อย ซึ่งสามารถเก็บส่งตามออเดอร์ได้แล้วทุกวัน”

ฟักทองแต่ละลูก จะหนักประมาณ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ใหญ่สุดที่ 3.7 กิโลกรัม และลูกค้าที่ซื้อไปสามารถนำเมล็ดพันธุ์ที่ได้ไปเพาะพันธุ์ปลูกต่อได้ด้วย ซึ่งหากขายได้ลูกละ 200 บาท แค่เพียง 1,000 ลูก จะสามารถสร้างรายได้ถึง 200,000 บาท ส่วนอีก 700 ลูกนั้นตัดออกเผื่อเป็นลูกเสียที่โดนแมลงซึ่งจะไม่ส่งขายให้กับลูกค้า เพราะฟักทองของตนจะไม่ใช้สารเคมีใดๆเลย แต่หากขายได้ทั้งหมด ก็จะสร้างรายได้ให้สูงถึง 340,000 บาท เรียกได้ว่าการปลูกฟักทอง ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างอาชีพ สร้างรายได้ดีทดแทนการทำนาในช่วงหน้าแล้งนี้เลยทีเดียว

ความพิเศษของฟักทองเงือกสองใจ เป็นฟักทองลูกทรงยาว เนื้อเยอะ เนื้อตัน เนื้อสีเหลืองเข้มสวย เนียน ให้รสชาติที่หวานเหนียวนุ่ม ส่วนมันลืมผัว จะให้รสชาติที่มัน เหนียวนุ่ม และสีเหลืองสวย – พันธุ์หอมใบเตย จะมีกลิ่นที่หอมเหมือนใบกลิ่นใบเตยทั้งลูกและใบ

ส่วนการปลูกฟักทอง ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้น 0.75-1.5 เมตร ขึ้นอยู่กับพื้นที่ การปลูกแบบระยะ 1.5×1.5 เมตร ได้ผลผลิตมากแต่จัดการยาก การปลูกแถวเดี่ยว แปลงกว้าง 1.8-2 เมตร เว้นระยะ 1.5 เมตร ง่ายต่อการจัดการเถา ส่วนการปลูกแถวคู่ แปลงกว้าง 3.5-5 เมตร เว้นระยะ 1.5 เมตร เถาเลื้อยจรดกันสองด้าน สะดวกต่อการทำงาน

ฟักทองเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความชื้นในดินที่พอเหมาะ จึงควรใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วใน การย่อยดิน เพื่อให้ดินมีความร่วนซุย สามารถระบายน้ำได้ดี หากที่ดินนั้นเคยใช้เพาะปลูกมานาน ควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดด้วย และควรไถดินให้ลึกประมาณ 25-30 เซนติเมตร เพราะฟักทองเป็นพืชที่มีระบบรากแบบฝังลึก การปลูกฟักทองแบบหยอดเมล็ด ขุดหลุมเล็กๆ ลงไปในดินประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วหยอดเมล็ด ฟักทองลงไปหลุมละ 2-3 เมล็ดกลบด้วยดินผสมละเอียดหรือ ขี้เถ้าแกลบดำรดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟางเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าดินภายใน 3-4 วัน ต้นกล้าจะงอกพ้นพื้นดิน มีใบจริง 2-3 ใบ ให้ถอนต้นกล้าที่อ่อนแอทิ้งไป เหลือไว้หลุมละ 1 ต้นเท่านั้น

เมื่อต้นฟักทองเริ่มเจริญเติบโต ควรมีการดูแลรักษา ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน และกำจัดโรคหรือแมลงศัตรูพืชที่อาจจะสร้างความเสียหาย การให้น้ำ ฟักทองเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ ควรให้น้ำในปริมาณที่พอเหมาะ ในช่วงที่ต้นฟักทองกำลังออกดอกและติดผล ควรรดน้ำ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ขาดน้ำ ระบบการให้น้ำที่ดีคือ ให้น้ำเข้าร่อง เพื่อให้น้ำซึมเข้าสู่ดินโดยตรง ไม่ควรพ่นน้ำผ่าน ใบของฟักทอง เพราะอาจจะทำให้ใบเปียกน้ำจนเป็นโรคเน่าได้