ป.ป.ส.อวดโฉม “อินทรีย์ 19” โชว์ศักยภาพผนึกกำลัง 6 หน่วยงาน ฝึกปฏิบัติการพิเศษ หน่วยสกัดกั้นยาเสพติด

เมือวันที่ 22 มกราคม 2568 พิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรฝึกปฏิบัติการร่วมทางยุทธวิธีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วม ได้แก่ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปราบปรามยาเสพติด, ผู้บังคับการประจำสำนักงาน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้กำกับการปฏิปฏิบัติการพิเศษ, ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ผู้กำกับการต่อต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บช.ก.), ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ, รองผู้บังคับการ ณ หน่วยอรินทราช 26 กองบินตำรวจ

การสาธิตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการฝึกปฏิบัติการร่วมทางยุทธวิธีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 มกราคม 2568 เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการบูรณาการกำลังของหน่วยปฏิบัติการพิเศษจาก 6 หน่วยงาน ได้แก่ หน่วยอรินทราช 26 (บก.สปพ.), หน่วยอินทรีย์ 19 (ป.ส), หน่วยสยบริปูสะท้าน (บช.ก.), หน่วยสยบไพรี 43 (บช.ปส.), กรมสารวัตรทหารอากาศ และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจำลองสถานการณ์ตามเบาะแสยาเสพติดที่ได้รับแจ้งผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ครอบคลุม สถานการณ์สำคัญ ได้แก่

 

1) การส่งกำลังทางดิ่งจากอากาศยานเข้าจู่โจมจับกุมคนร้าย

2) การจับกุมคนร้ายโดยใช้ยานพาหนะ 3) การเคลื่อนกำลังเข้าสู่ที่หมายทางน้ำและการจัดชุดปฏิบัติการจู่โจม 4) การประกอบกำลังเพื่อเข้าตีที่หมายภายในอาคารมั่นคงแข็งแรง

โดยมุ่งเน้นการบูรณาการกำลังและยุทธวิธีของหน่วยงานต่าง ๆ ให้ปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับองค์กรอาชญากรรมยาเสพติดที่มีความชับซ้อน

นายปฤณ เมฆานันท์ ประธานในพิธีได้กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรทุกท่าน ซึ่ง แต่ละหน่วยได้รับการฝึกฝนทางร่างกายและยุทธวิธีขั้นสูงร่วมกับหน่วยอรินทราช 26 ครอบคลุมการปฏิบัติแบบทีมโจมตี, การตรวจค้นอาคารและยานพาหนะ, การหาข่าว และการปฐมพยาบาล เพื่อสนับสนุนการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดที่มีอาวุธรุนแรง ตามนโยบายรัฐบาล

สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานความมั่นคงในการร่วมมือปราบปรามยาเสพติด มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน มุ่งลดปัญหายาเสพติด ทั้งการนำเข้าและส่งออกสารตั้งต้นไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามเครือข่าย ยาเสพติดระหว่างประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมเน้นย้ำให้ผู้สำเร็จ

การฝึกนำความรู้และทักษะไปบูรณาการกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และขยายผลการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดต่อไป