มูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และพันธมิตรจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมรณรงค์ “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่และประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงการดื่มไม่ขับ รณรงค์ให้ผู้ดื่มใช้บริการรถสาธารณะในการกลับบ้านอย่างปลอดภัย และตั้งเป้าหมายลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมี นางสาวชัชฎา จันทรางศุ ประธานมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่รณรงค์แคมเปญ “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” ณ ด่านตรวจแอลกอฮอล์ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม และสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ
พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หากย้อนกลับไปดูความสูญเสียบนท้องถนนทั่วประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ของ 3 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า ปี 2565 มีอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 333 ราย, ปี 2566 มีอุบัติเหตุ 2,440 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 317 ราย, และล่าสุดปี 2567 มีอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 284 ราย ตัวเลขเหล่านี้ยังไม่รวมจำนวนผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยสาเหตุอันดับ 1 คือการขับรถเร็ว, อันดับ 2 คือการเมาแล้วขับ, และอันดับ 3 คือการขับรถผิดกฎจราจร ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่ป้องกันได้
พล.ต.ต.ธวัช กล่าวต่อไปว่า สำหรับปีนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลเน้นย้ำให้สถานบริการ สถานประกอบการ รวมถึงร้านอาหารหรือร้านค้าทุกประเภทที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในกรณีห้ามขายเครื่องอื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ รวมถึงร่วมรณรงค์ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการทุกรายทราบ และตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนน
“กรุงเทพมหานครนั้นมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่สูงอันดับต้นๆ ทุกปี ปีนี้เราตั้งเป้าว่าต้องลดอุบัติเหตุลงให้ได้ วันนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ได้ร่วมมือกันทำงานอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง พวกเราเห็นตรงกันว่าการดื่มเพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลนั้นย่อมทำได้ แต่ต้องดื่มแล้วไม่ขับ หากคุณจะดื่ม ก็ต้องวางแผนว่าจะเดินทางกลับบ้านอย่างไร ทุกวันนี้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น ทั้งบริการรถสาธารณะต่างๆ บริการรถที่เรียกผ่านแอปพลิเคชัน กระทั่งบริการคนขับรถให้ ทุกคนต้องตระหนักว่าเมื่อดื่มแล้วต้องไม่ขับ ต้องฉลองอย่างมีความรับผิดชอบ เราต้องช่วยกัน 7 วันต้องไม่อันตรายอีกต่อไป” พล.ต.ต.ธวัช กล่าว
ด้าน นางสาวชัชฎา จันทรางศุ ประธานมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) กล่าวว่า ปัญหาเมาแล้วขับนั้นสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงให้สังคมไทย การแก้ไขปัญหาต้องประกอบไปด้วยการสร้างวัฒนธรรมดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ การให้ความรู้ และการบังคับใช้กฎหมายที่ครอบคลุมและเข้มงวด ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลและพันธมิตรต่างๆ มาอย่างแล้วในการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่และประชาชนทั่วไปตระหนักถึงการดื่มไม่ขับ และให้ใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ ในการเดินทางกลับบ้าน อันจะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการดื่มแล้วขับ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดี สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ มูลนิธิฯ ยังคงดำเนินกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมาย
“เรามีเป้าหมายร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ส่วนเป้าหมายในระยะยาวที่มีร่วมกันก็คือการสร้างวัฒนธรรมดื่มอย่างมีความรู้ความเข้าใจและมีความรับผิดชอบ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ก่อตั้งขึ้นโดยการสนับสนุนของผู้ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราต้องการบอกกับสังคมว่า ‘ไม่ว่าเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลไหน ฉลองอย่างมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง’ สารสำคัญนี้ยังสอดรับกับนโยบายรัฐที่มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้ให้กับประเทศไทย และถนนที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศนั้นก็สำคัญอย่างยิ่ง” นางสาวชัชฎา กล่าว
นางสาวชัชฎา ยังเปิดด้วยเผยว่า โครงการรณรงค์ “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” นั้นจะดำเนินกิจกรรมตลอดระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นช่วงคุมเข้ม ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568 โดยมูลนิธิฯทำงานอย่างใกล้ชิดกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมลงพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร นำองค์ความรู้เรื่องผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อร่างกายไปเผยแพร่สู่ประชาชน มีการจัดทำสื่อให้ความรู้ใช้แจกตามด่านตรวจ ซึ่งทางมูลนิธิฯจะร่วมดำเนินการกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างจุดสมดุลให้กับสังคมในทุกเทศกาลสำคัญของประเทศ พร้อมทั้งกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป