ตำรวจสืบ ภ.2 บุกค้นบ้านหรูรวบจีนเทา 2 คนเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตรวจพบหลักฐานตุ๋นเหยื่อในไทยกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนตัวการใหญ่เผ่นหนีไปแล้ว หลังขยายผลทลายแก๊งคอลฯ ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รวบผู้ต้องหา 4 คน ยึดทรัพย์ 152 ล้านบาท พฤติการณ์มักจะนำเงินมาฟอกซื้อบ้านหรูและรถสปอร์ต เร่งประสาน ปปง.จ่อยึดทรัพย์

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภาค.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลังคอมมานโดบูรพา 491 ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง.รวม 50 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 78/258 ภายในหมู่บ้านสยามรอยัลวิว หมู่ 10 ซอยเขาตาโล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นที่พักของตัวการสำคัญ ระดับสั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น อยู่ท้ายหมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ลักษณะบ้านเป็นบ้านหรูมูลค่าประมาณ 60-70 ล้านบาท มีรั้วรอบขอบชิดแนวกำแพงค่อนข้างสูงและติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน ตำรวจเรียกคนที่อยู่ในบ้านปรากฏว่ามีชายชาวจีนออกมาเปิดประตูให้ ก่อนจะเข้าไปตรวจค้นในบ้าน พบว่าภายในบ้านมีรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด 1 คัน และรถเก๋งโตโยต้า เลกซัส สีขาว 1 คัน จอดอยู่ภายในบ้าน

สำหรับการตรวจค้นในครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลต่อเนื่องมาจากจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 คน ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ช่วงเดือน ส.ค.67 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานหลอกลวงเหยื่อหลายรูปแบบ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด อ้างตัวเป็นตำรวจไซเบอร์หรือทนายความที่สามารถช่วยเหลือด้านคดี และยังหลอกลวงในรูปแบบโรแมนซ์สแกมหรือหลอกให้รัก จะมีสคริปต์การพูดหลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้

ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดพบว่ามีการสนทนากับเหยื่อในแอปพลิเคชันเมสเซนเจอร์ เฟซบุ๊กและไลน์ออฟฟิเชียลเป็นจำนวนมาก มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมากรวมถึงมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ภายหลังการจับกุมของตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 ขยายผลยังทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้มีหัวหน้ากลุ่มเป็นชาวจีน 2 คน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรูเขตพื้นที่เมืองพัทยา สืบสวนจนทราบแหล่งที่พักก่อนจะขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายค้นและบุกตรวจสอบ

ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่จับกุมนายฉีเว่ย ยี้ อายุ 59 ปี และนางหงฉง หยู อายุ 55 ปี ทั้งคู่เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา 2 หมาย (707,708) กระทำความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปฟอกเงิน ส่วนตัวการใหญ่ชื่อนายเต่ายี้ อายุ 35 ปี เป็นระดับหัวหน้าสั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมถึงเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า การบุกตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในครั้งนี้ เป็นการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริมเปิดออฟฟิศในทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2567 จับกุมทั้งหมด 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 1 ราย ขยายผลและตรวจสอบเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มเติมยึดทรัพย์รวมมูลค่า 152 ล้านบาท ล่าสุดรวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพนักงานออฟฟิศจำนวน 11 คน กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี, ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และกลุ่มบอสหรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 20 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 15 คน บางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศอยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม

พล.ต.ท.ยิ่งยศเผยอีกว่า การสืบสวนสอบสวนเครือข่ายนี้แปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่างๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการเป็นชาวจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆ รวมถึงประกอบกิจการในนามบริษัทนอมินี ใช้บริษัทนอมินีที่เปิดขึ้นมาซื้อและถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบนำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สินดำเนินการตามกฎหมาย