ศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024” ปิดฉากสนามสุดท้ายของปีที่ประเทศไทย ด้วยความมันส์ดีกรีระดับโลก ผลรุ่นใหญ่ “ยูกิ คูนิ” นักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี ทีม ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า พีเอช บิดเข้าวินพร้อมพลิกคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลไปครอง ขณะ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม อาเซียน เหมาชัยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต ทะยานครองบัลลังก์แชมป์เอเชียอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนความเร็วในบ้านเกิด โดยสองดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และ “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ แจ้งเกิดเต็มตัวขนาบข้างบนโพเดียมโฮมเรซ เพลงชาติไทยกระหึ่มสนาม
การแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามที่ 6 ดวลความเร็วเรซที่ 2 ส่งท้ายปี วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 ท่ามกลางการติดตามของแฟนความเร็วทั่วโลก กับสถานการณ์ลุ้นแชมป์ที่ต้องตัดสินกันถึงเรซสุดท้าย โดยมีแฟนมอเตอร์สปอร์ตเข้าชมในสนามและติดตามการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์มากมาย
ไฮไลต์อยู่ที่รุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ที่ยังคงมี แอนดี้ ฟาริด อิซอิฮาห์ นักบิดอินโดนีเซียจ่าฝูงบนแชมเปียนชิพจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ทีมเมทชาวไทยในกริดที่ 2 ส่วน ยูกิ คูนิ นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก เอสดีจี ทีม ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า พีเอช ที่มีลุ้นแชมป์อยู่นั้นได้เริ่มเกมจากกริดที่ 3
เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 13 รอบสนาม และมีความพลิกผันอย่างมาก แม้ว่า แอนดี้ ฟาริด อิซอิฮาห์ ออกนำได้ก่อน แต่ท้ายที่สุดก็โดน ยูกิ คูนิ ขยับแซงได้ในรอบที่ 3 ก่อนที่นักบิดญี่ปุ่นจะบิดคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 20 นาที 47.479 วินาที โดยตัวแปรสำคัญอยู่ที่การไล่แซงขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ของ เท็ตซูตะ นากาชิม่า อดีตนักบิดโมโตทูชาวญี่ปุ่นจาก เอสเตโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทย ฮอนด้า ตามหลังผู้ชนะ 0.936 วินาที เบียดให้ แอนดี้ ฟาริด อิซอิฮาห์ ตกไปจบการแข่งขันในอันดับ 3 ตามหลัง 3.448 วินาที ด้าน “ชิพ” นครินทร์ จบเรซในอันดับ 8 ตามหลัง 29.166 วินาที
จากผลในเรซสุดท้าย ส่งผลให้ “ยูกิ คูนิ” นักบิดชาวญี่ปุ่นพลิกกลับมาคว้าแชมป์ประจำปีในรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีคะแนนเหนือ “แอนดี้ ฟาริด อิซอิฮาห์” เพียง 2 แต้มเท่านั้น ขณะที่ “ชิพ” นครินทร์ จบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 ของเอเชียในรุ่นใหญ่ที่สุด
ด้านเกมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ก็เข้มขันไม่แพ้กัน และต้องตัดสินผู้ชนะในเรซสุดท้ายถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน โดย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยอดนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม อาเซียน กวาดชัยชนะไปครองทั้ง 2 เรซ ด้วยเวลา 20 นาที 0.313 วินาที เถลิงแชมป์เอเชียในรุ่นนี้ไปครองอย่างยิ่งใหญ่
โดยในเรซนี้ 2 นักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างผลงานอย่างน่าประทับใจ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และ “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 และ 3 อย่างเฉียดฉิว ตามหลังผู้ชนะเพียงคนละ 0.118 วินาที และ 0.256 วินาที ส่งผลให้โพเดียมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ตกเป็นของนักบิดไทยทั้ง 3 อันดับ ส่วน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม จบเรซในอันดับ 7 ตามหลังผู้ชนะเพียง 1.582 วินาทีเท่านั้น
ส่วนเกมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ที่ต้องตัดสินแชมป์ในเรซสุดท้ายเช่นกัน ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ “เชา เวียดนาม” นักบิดเวียดนามจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง เวียดนาม ทีม ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยด้วยเวลา 19 นาที 2.009 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง “เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส” นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.580 วินาที พร้อมกับคว้าแชมป์ประจำปีไปครอง ส่วนอันดับ 3 เรซนี้เป็นของ “มูฮัมหมัด แฟโรซี” นักบิดอินโดนีเซียจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ตามหลัง 1.913 วินาที ด้านนักบิดไทยที่ผลงานดีที่สุดคือ “ไฮเป็ค” กฤษฎา ธนโชติ ดาวรุ่งจาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ที่ลงแข่งด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด จบเรซในอันดับ 6 ตามหลัง 2.138 วินาที
ขณะที่ผลการแข่งขันในรุ่น อันเดอร์โบน 150 ซีซี ชัยชนะตกเป็นของ “ฟาห์มี บาซัม” นักบิดอินโดนีเซียจาก ยามาฮ่า แอลเอฟเอ็น เอชพี969 อินโดนีเซีย เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 16 นาที 27.758 วินาที โดยจากการคว้าชัย 2 เรซที่ บุรีรัมย์ ส่งผลให้เขาคว้าแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ไปครองได้สำเร็จ ส่วนอันดับ 2 ในเรซนี้เป็นของทีมเมทอย่าง “มูร็อบบิ วิตโตนี” ตามหลัง 0.352 วินาที อันดับ 3 ได้แก่ “ดิมาส จูลี แอตโมโก” นักบิดอินโดนีเซียจาก วัน ฟอร์ ออลล์ ตามหลัง 0.803 วินาที ด้านนักบิดไทยอย่าง “เติ้ล” พีรพงศ์ หลุยบุญเป็ง จาก วัน ฟอร์ ออลล์ จบเรซในอันดับ 9 ตามหลัง 1.442 วินาที
สำหรับเกมในรุ่น ทีวีเอส วันเมค แชมเปียนชิพ เรซสุดท้าย ชัยชนะเป็นของ ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดชาวญี่ปุ่นด้วยเวลา 14 นาที 59.946 วินาที พร้อมกับการผงาดคว้าแชมป์ประจำปีไปครอง โดยอันดับ 2 เป็นของนักบิดไทยอย่าง “อาทิตย์ กังแฮ” ตามหลัง 0.402 วินาที ได้ฉลองโพเดียมทั้ง 2 เรซ ตามด้วยนักบิดรุ่นพี่ชาวไทยอย่าง “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล ในอันดับ 3 ตามหลัง 2.388 วินาที
ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 นับเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้น จนต้องมาตัดสินกันถึงสนามสุดท้ายในประเทศไทย โดยในฤดูกาล 2025 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้รับการยืนยันให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชียรายการนี้ ทั้งการทดสอบสนามก่อนเปิดฤดูกาลหรือ “พรี-ซีซั่นเทสต์” เป็นเจ้าภาพสนามแรกและสนามสุดท้ายเช่นเคย