ร้านทุเรียนขอนแก่นมั่นใจคุณภาพทุเรียนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก หลังพบทุเรียนเวียดนามเริ่มเข้ามาตีตลาด เชื่อลูกค้าสายราชาผลไม้ยังคงเลือกทุกเรียนไทยเป็นอันดับแรกเพราะมีความหอมหวาน-เนื้อสัมผัสที่ดีกว่า และกลิ่นที่โดดเด่น

บรรยากาศการซื้อขายทุเรียนที่ตลาดรถไฟขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น ภายหลังมีกระแสข่าวทุเรียนจากเวียดนามเข้ามาตีตลาดในไทย .ในระยะนี้และมีราคาที่ถูกกว่าทุเรียนไทยเกือบครึ่ง โดยพบว่าที่โซนจำหน่ายทุเรียนยังคงมีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อทุเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละร้านได้แกะใส่ถาดวางจำหน่ายเริ่มต้นถาดละ 100 บาท ควบคู่กับการจำหน่ายเป็นลูก โดยทุเรียนหมอนทองวันนี้ เริ่มต้น กก.ละ100 บาท โดยทุกร้านที่นำมาจำหน่ายที่ตลาดรถไฟขอนแก่น เป็นทุเรียนไทยทั้งหมด โดยที่ไม่มีทุเรียนของเวียดนามมาปะปนขายแต่อย่างใด

น.ส.มนัสนันท์ ผาสุข อายุ 38 ปีเจ้าของร้าน จุ๊บ จุ๊บ ทุเรียนแซบนัว กล่าวว่า   ทุเรียนที่เข้ามาแข่งตอนนี้ส่วนมากจะเป็นของเวียดนามซึ่งมีราคาถูก แต่จากการทดสอบทุเรียนที่ปลูกในประเทศไทยทั่วทุกภูมิภาค และแม้จะเป้นทุเรียนนอก ซึ่งเปรียบเทียบแล้ว ทั้ง สี กลิ่น และรสชาติ ต่างสู้ทุเรียนไทยไม่ได้  ร้านจึงจำหน่ายเพียงทุเรียนไทยเท่านั้น อีกทั้งในขณะนี้ทุเรียนออกผลผลิตเยอะ สินค้าเริ่มล้นตลาดทำให้ทุเรียนไทยมีราคาถูกลง

“  ร้านได้จัดโปรโมชั้นราคาส่งจำหน่ายอยู่ที่ 80-100 บาทเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ขายไม่ได้ เพราะตอนนี้ ทุเรียนล้นตลาด แต่ถ้าเทียบกับทุเรียนเวียดนาม จากราคาที่เคยสอบถามพ่อค้าคนกลาง ราคาขายส่งอยู่เพียง 40-50บาทเท่านั้น ซึ่งก็ยังถูกกว่าทุเรียนไทยเกือยครึ่ง ส่วนลูกค้าที่ไม่ทราบว่าทุเรียนมาจากไหน ส่วนใหญ่ก็จะซื้อที่ราคาถูกไว้ก่อน ซึ่งหากคนที่ดูทุเรียนเป็น หรือคอทุเรียนจริงๆ จะดูออก เพราะขนาดรูปทรงของผล และหนามของทุเรียนเวียดนาม จะไม่เหมือนทุเรียนไทย จะเล็กปัอม หนามตื้นๆ ที่สำคัญรสชาติความละมุมของเนื้อ หากแม่ค้าแกะมาวางก็แทบจะดูไม่ออกถ้าคนไม่รู้ แต่ถ้าคนรู้ก็จะเห็นความต่างที่สีเนื้อของทุเรียนชัดเจน”

น.ส.มนัสนันท์ กล่าวต่ออีกว่า  ถ้าในอนาคตมีผลไม้จากต่างประเทศเข้ามามากทั้งจากจีนและเวียตนาม  จะมีผลกระทบกับผลไม้ไทยแน่นอน แต่ถ้าเป็นทุเรียนจีนคงเป็นไปได้น้อย เพราะมีแต่จีนนำจากไทยเข้าไป และไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะจีนมีประชากรมาก  และถ้าจีนปลูกทุเรียนได้เองแล้ว น้อยมากที่จะส่งกลับมา เพราะขายในประเทศก็ไม่พอ อย่างไรก็ตามร้านรับมาขาย ถ้าราคาถูก เราก็ ขายราคาถูก จัดโปรให้ลูกค้า พอราคาสูงขึ้น บางคนกำลังซื้อ ไม่พอก็กระทบกับเศรษฐกิจหลายอย่าง แม่ค้าเองก็ขายยาก

ขณะที่ น.ส.วรรณรัตน์ หน่อพยอม อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน ทุเรียน ต้าวอ้วน ตลาดรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า  อนาคตมีทุเรียนจากเวียดนามเข้ามาขายในไทยมากขึ้น เพราะสินค้าที่เข้ามามีราคาถูกกว่า ซึ่งจะเป็นการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกไป แต่ทางร้านคงไม่กระทบ  เพราะทางร้านอยากอุดหนุนเกษตรกรไทย เพราะผลไม้ไทยไม่ด้อยไปกว่าผลไม้ของชาติใดในโลก และเป็นสินค้าส่งออกขึ้นชื่อ  ร้านจึงเลือกใช้เฉพาะทุเรียนไทยมาจำหน่ายเท่านั้น โดยมีการคัดสรรทุเรียนคุณภาพมาจำหน่าย   ส่วนเรื่องราคา ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น เพราะบางครั้งหากเป็นของถูกลูกค้าเองก็ไม่มีความมั่นใจ ส่วนบางร้านค้าที่นำทุเรียน จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายนั้น อาจเป็นเพราะราคาที่ต้องการขายออกเร็วๆ หรือขายในราคาถูกเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบของถูกเป็นหลัก

“ แต่ถ้าจะเปรียบเทียบรสชาติแล้วก็สู้ของไทยเราไม่ได้แน่นอน ทั้งสี กลิ่น และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โดยทางร้าน จะมีการให้ความรู้กับผู้บริโภค ในการเลือกซื้อ ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง ส่วนลูกค้าจะเลือกซื้ออะไร ก็เป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค ตัดสินใจที่จะเลือกทานแบบไหนดีกว่า ซึ่ง ทางร้านเองก็ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม ถึงข้อแตกต่าง ของทุเรียน ที่นำเข้ามาจำหน่ายตลอดเวลา เพื่อเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ในการแนะนำลูกค้าอย่างถูกต้องอีกด้วย”

โดย…จักรพันธ์  นาทันริ /ขอนแก่น