สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา ร่วมกับ กลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภายใต้ชายแดน และองค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา จัดกิจกรรม “เปิดประตูสู่ ป่าฮาลา-บาลา แฟมทริป ล่องเรือ ส่องสัตว์ สัมผัสธรรมชาติกลางผืนน้ำ” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในป่าฮาลา-บาลาให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของชมชนในพื้นที่ทะเลสาบ ฮาลา-บาลาให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดยะลา
โดยการจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร แฟมทริป “ล่องเรือ ส่องสัตว์ สัมผัสธรรมชาติกลางผืนป่าฮาลา-บาลา” สัมผัสธรรมชาติพักแรมกลางผืนน้ำทะเลสาปฮาลา-บาลา ณ มูน เลค รีสอร์ท เหนือเขื่อนบางลาง ตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เพื่อประชาสัมพันธ์ป่าฮาลา-บาลา หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดยะลาให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากป่าฮาลาบาลา อยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภาคใต้ตอนล่าง ประกอบไปด้วยผืนป่าสองผืน คือ ป่าฮาลา ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และป่าบาลา ในพื้นที่อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีเนื้อที่รวมแล้วกว่า 270,725 ไร่ เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนและเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย ได้รับขนานนามว่า “อเมซอนอาเซียน”
นายกิจจา ไวชมพู ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดยะลา กล่าวว่า เปิดประตูสู่ปาฮาลา-บาลา กิจกรรมแฟมทริป “ล่องเรือ ส่องสัตว์ สัมผัสธรรมชาติกลางผืนป่าฮาลา-บาลา” เป็นกิจกรรมที่จะทำให้จังหวัดยะลาให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชนในพื้นที่อีกด้วย สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดยะลา
“กิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรครั้งนี้ จะส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวป่าฮาลา-บาลา ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และยังเป็นการเสริมกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวที่มาชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บนสกายวอล์คที่ตอนนี้มีจำนวนขยายตัวมากขึ้น และอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาปมากนัก นี่คือ บริการที่เน้นคุณค่า และความยั่งยืนเชื่อมโยงชุมชนกับท้องถิ่นจะสามารถสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจอำเภอธารโตและอำเภอเมืองเบตง อันจะส่งผลต่อการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสู่จังหวัดยะลาและยกระดับเศรษฐกิจต่อไป” นายกิจจากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานนอกจากกิจกรรมล่องเรือ ส่องสัตว์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเกาะทวด ศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านบริเวณโดยรอบเขื่อนบางลาง สื่อมวลชนยังได้มีโอกาสไปชื่นชมแสงอรุณแรกแย้มท่ามกลางทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บนจุดชมวิวสกายวอล์คสูง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร จำนวน 6 ชั้น โอบล้อมด้วยขุนเขาสีเขียวเรียงรายสลับซับซ้อน มีทางเดินลอยฟ้าทอดยาวไปจนสุดระเบียงกระจกวงกลมที่กลายเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามแปลกตา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ แวะมาเยือนมากถึงวันละ 1,500 คน ก่อนที่จะเข้าไปพักในตัวเมืองเบตง ซึ่งเวลานี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งชาวจีน และมาเลเซีย มาท่องเที่ยวจำนวนมาก
ด้านนายซอลาฮุดดีน ยาญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง กล่าวเสริมว่า ขอให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในความปลอดภัยในบริเวณโดยรอบอำเภอเบตง และทุกวันนี้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่อำเภอเบตง ขยายตัวเร็วมาก ซึ่งทาง อบต.อัยเยอร์เวง ร่วมมือกับชุมชนมุ่งมั่นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และในช่วงไฮท์ซีซั่นประมาณเดือนธันวาคม ทาง อบต.อัยเยอร์เวง เตรียมจัดกิจกรรมวิ่งมินิมาราธอนขึ้นเขา เพื่อมาชมพระอาทิตย์ และทะเลหมอกที่สกายวอล์คอัยเยอร์เวง
