ราคาดอกมะลิหน้าสวนที่ จ.อุดรธานี ทะลุ 1,200 บาท/กก. เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้เชื้อรากัดกินดอก ส่งผลให้ดอกเหลืองร่วงกระทบผลผลิตลดลง ขณะที่ต้องเก็บขายช่วงวันแม่ 12 สิงหาฯ ด้านเกษตรกรชาวสวนพยายามบำรุงต้นเต็มที่ เพื่อให้เก็บมะลิขายได้มากที่สุด

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน จาก จ.อุดรธานี ที่สวนดอกมะลิท้ายหมู่บ้านห้วยเจริญ ม.16 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี ประมาณ 1 ไร่ พบนายสัด สุขเจริญ อายุ 54 ปี เจ้าของสวนดอกมะลิ และคนงาน กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บดอกมะลิอย่างเร่งรีบ หลังจากฝนหยุดตก 2 ชั่วโมงเศษ และกำลังตั้งเค้ามืดครึ้มมารอบทิศทาง เพื่อส่งขายแม่ค้าพวงมาลัยในหมู่บ้าน นำไปร้อยพวงมาลัยส่งขายตามตลาด ตามสี่แยกไฟแดง และบางส่วนก็นำไปแช่เย็น เพื่อเตรียมไว้ร้อยมาลัยกรขายในช่วงวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2567 หรืออีก 1 สัปดาห์

นายสัด สุขเจริญ เปิดเผยว่า ราคาดอกมะลิในพื้นที่ จ.อุดรธานี ในช่วงนี้แพงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ราคาจะตกอยู่ที่ 800-900 บาท/กก. แต่ปีนี้ราคาพุ่งถึง 1,200 บาท/กก. สาเหตุจากฝนตกหนักในพื้นที่แทบทุกวัน ไม่เหมือนปีที่ผ่านมา ก็มีฝนตกบ้างเป็นบางวัน และมีเวลาในการเก็บผลผลิต ส่งผลให้ผลผลิตปีนี้น้อยลง 2-3 เท่าตัว ในช่วงวันแม่แห่งชาติ 2567 จากปกติเก็บได้วันละ 6-10 กก./วัน เหลือเพียง 2-3 กก./วัน

เจ้าของสวนดอกมะลิ บ้านห้วยเจริญ กล่าวต่อว่า เมื่อมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ดอกมะลิเป็นเชื้อรา ก้านเบี้ยว ดอกสีเหลือง สีม่วง หรือดอกไม่สวย และร่วง ช่วงนี้ดอกมะลิเป็นที่ต้องการของแม่ค้าในตลาด ที่สั่งซื้อจากชาวสวน มีเท่าไรเหมาทั้งหมด คาดว่าก่อนถึงวันแม่แห่งชาติ 1-2 วัน ราคาคงดอกมะลิจะพุ่งกระฉูดถึง 1,500 บาท/กก. อย่างแน่นอน และหากฝนเบาบางลง ผลผลิตก็คงจะเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังน้อยต่อความต้องการของตลาดเช่นทุกๆ ปี

“ฝากถึงพ่อค้าแม่ค้ามาลัยกร และผู้บริโภคว่า ในช่วงนี้ผลผลิตดอกมะลิมันน้อยมากจริงๆ ก็อยากให้เข้าใจชาวสวนว่า ต้องดูแลต้นมะลิทุกวัน กว่าจะได้เป็นดอกออกผล ก็ต้องใช้เวลา และต้นทุน ไหนจะค่าจ้างคนงานมาเร่งช่วยเก็บ ตอนช่วงฝนหยุดตก ทำทุกอย่างเพื่อให้เก็บดอกมะลิให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ในช่วงนี้” นายสัด กล่าว.