แรงงานเมียนมาอ่วม ต้องโอนเงินรายได้ทำงานในต่างแดน 25% กลับบ้าน ผ่านธนาคารในเมียนมา เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว หลัง รัฐบาลเผด็จการทหารออกกฎบังคับนี้เมื่อกันยายนปีที่แล้ว ทำให้ชาวเมียนมาไม่พอใจ ชี้ รัฐบาล”ถังแตก”

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2567 เว็บไซต์อิรวดี สื่อภาษาอังกฤษในประเทศเมียนมา รายงานว่า กฎข้อบังคับให้แรงงานชาวเมียนมาซึ่งมาทำงานในประเทศไทย ต้องโอนเงินรายได้อย่างน้อย 1 ใน 4 หรือ 25% กลับบ้าน ผ่านระบบธนาคารของประเทศ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว หลังจากรัฐบาลทหารเผด็จการทหารเมียนมา ภายใต้การนำของ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ออกกฎข้อบังคับนี้เมื่อ ก.ย. 2566

กระทรวงแรงงานของเมียนมา ออกแถลงการณ์ว่า แรงงานชาวเมียนมาซึ่งไปทำงานในประเทศไทย ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU) ซึ่งวาระจ้างงานครบ 4 ปี ต้องโอนเงินรายได้อย่างน้อย 25% ของรายได้ ซึ่งเป็นเงินสกุลต่างประเทศ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ของเมียนมา ซึ่งได้รับรองจากรัฐบาล หากต้องการจะต่อใบอนุญาตทำงานแบบถูกกฎหมาย หลังจากครบวาระสัญญาจ้าง ทำงานในประเทศไทย 4 ปี

กระทรวงแรงงานของเมียนมา ยังแจ้งว่า แรงงานชาวเมียนมาจะไม่ได้รับการต่อใบอนุญาตทำงานไนไทยเป็นเวลา 2 ปี ภายใต้บันทึกความเข้าใจ ซึ่งเรียกกันว่า หรือ MOU-Return ถ้าแรงงานชาวเมียนมาไม่โอนเงิน 6,000 บาท หรือ 25% ของรายได้พื้นฐานจากการทำงานที่ประเทศไทย ในช่วง 3 เดือน กลับบ้าน ผ่านระบบธนาคาร ซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐบาลเมียนมา

กระทรวงแรงงานเมียนมา ยังแจ้งด้วยว่า แรงงานชาวเมียนมาที่จะไปยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาตทำงานในต่างประเทศ ที่สำนักงาน 2 แห่ง ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และ Kawthaung หรือคนไทยเรียกเกาะสอง จะต้องแสดงเอกสารการโอนเงินรายได้อย่างน้อย 25% ผ่านระบบธนาคาร หากต้องการต่อใบอนุญาตทำงานในต่างแดน