เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เกิดเหตุต้นมะขามยักษ์อายุราว 100 ปี บริเวณริมถนนตรงข้ามวัดมหาธาตุพระอารามหลวง เขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้ถูกแรงลมจากพายุฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยแรงลมทำให้ต้นมะขามยักษ์โค่นลงกับพื้น แบบถอนรากถอนยวงทั้งต้น ขณะเดียวกันกิ่งก้านสาขาของต้นมะขามยักษ์ ยังพาดทับบ้านพักบริเวณใกล้เคียง ทำให้หลังคาบ้านและทรัพย์สินเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ยังมีเสาไฟฟ้าหักโค่นอีก 1 ต้นด้วย โดยเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลฯ ต้องทำการตัดทอนกิ่งไม้บางส่วนออก แต่ยังไม่การเคลียร์ต้นมะขามยักษ์ 100 ปี ออกจากบริเวณดังกล่าว

ต่อมาทางเทศบาลฯได้เผยแพร่ภาพต้นมะขามยักษ์ถูกลมพายุพัดโค่นล้มทางสื่อโซเชียล ปรากฏว่า มีคอมเม้นท์จากชาวเมืองเพชรบูรณ์โอดครวญเสียดายที่ต้นมะขามยักษ์อายุ 100 กว่าปีโค้นล่มเพราะภัยธรรมชาติ โดยให้เหตุผลว่า มีความผูกพันและมีภาพจำต้นมะขามยักษ์มาตั้งแต่เด็ก ขณะเดียวกันยังขอให้นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ช่วยหาวิธีฟื้นคืนมะขามยักษ์ต้นนี้ให้ ในขณะที่นายเทพ เพียมะลัง ประธานสภาเกษตรกร จ.เพชรบูรณ์และนักวิชาการด้านเกษตรได้ออกมาระบุว่า “ถ้าจะยกตั้งที่เดิมอันตรายและระบบความเสียหายแล้ว” โดยนายเสกสรรชี้แจงว่า “ตอนนี้มีแนวคิดว่าต้องตัดแต่งกิ่งและเพิ่มโครงเหล็กค้ำยันช่วย”

นายเสกสรรยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีดว่า หลังเกิดเหตุการณ์ทางเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ติดต่อมาว่า หากเป็นไปได้ก็อยากขอให้ช่วยรักษามะขามต้นนี้ไว้ รวมทั้งมีชาวเพชรบูรณ์โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่หลายคนที่พูดคุยและเล่าถึงความผูกพันมะขามต้นนี้ที่อยู่คู่กับเมืองเพชรบูรณ์ไปแล้ว เวลานี้ตนจึงให้เจ้าหน้าที่พยายามรักษาสภาพต้นมะขามไว้ให้ได้มากที่สุดก่อน โดยให้ริดกิ่งก้านที่ไปพาดทับบ้านพักและเสาไฟฟ้าออกก่อน

“ส่วนการจะกู้ต้นมะขามยักษ์ให้กลับมามีชีวิตได้หรือไม่ก็ต้องดูความเป็นไปได้ เพราะจากการสังเกตดูรากใหญ่ขาด แต่มีอีกแนวคิดโดยจะยกต้นมะขามขึ้น จากนั้นอาจจะทำโครงเหล็กค้ำยันไว้ ทั้งนี้ทุกแนวทางยังไม่ตกผนึก แต่ยังไรก็ตามก็พยายามจะหาแนวทางแก้ไขเท่าที่จะทำได้ดีที่สุด และยังมีต้นไม้เก่าแก่ในเขตเทศบาลอีกหลายต้น มีผู้เสนอแนะให้ช่วยดูแลรักษาไว้ โดยให้ตัดแต่งกิ่งออกเพื่อลดความเสี่ยงถูกภัยธรรมชาติโค่นล้มอีก””นายเสกสรรกล่าว

ข่าว/ภาพ : สุนทร คงวราคม ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์