บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด ร่วมกับ Allianz Ayudhya จัดพิธีรับมอบกรมธรรม์ประกันภัย “KEMREX Product Liability Insurance” ความคุ้มครอง 100 ล้านบาท เพื่อให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บต่อร่างกาย หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินอันเป็นผลมาจากความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ นับเป็นบริษัทเดียวในตลาดผลิตภัณฑ์ฐานราก
นายประเสริฐ ธรรมมนุญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด กล่าวว่า ความสําคัญของงานก่อสร้างเริ่มจากรากฐานต้องดีก่อน หลังจากรับฟังความต้องการของลูกค้าเกี่ยวกับการรับประกันสินค้า จึงเกิดแนวคิดการทำประกันภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยการรับประกันเริ่มจาก 20 ล้าน ขยายเป็น 40 ล้าน และเมื่อตลาดของเข็มเหล็กเติบโตขึ้น จึงเพิ่มวงเงินประกันผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมถึง 100 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นบริษัทที่ทํางานก่อสร้างด้านฐานรากบริษัทเดียวที่สามารถทำประกันภัยสินค้าประเภทนี้ได้ เพราะมีการควบคุมคุณภาพที่ตรวจสอบได้ บริษัทประกันภัยจึงให้ความคุ้มครองถึงระดับ 100 ล้านบาท
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้เหนือความคาดหมายของลูกค้า ที่ผ่านมาเราติดตั้งเข็มเหล็กไปแล้วกว่า 3 ล้านต้น หลายคนอาจคิดว่าฐานรากเป็นเรื่องไกลตัว แต่ที่จริงแล้วฐานรากเป็นสิ่งสำคัญมาก และจะส่งผลถึงองค์ประกอบด้านบนทั้งหมด หากเกิดความเสียหายขึ้นลูกค้าต้องรับผิดชอบเอง แต่หากเป็นผลิตภัณฑ์เข็มเหล็กเมื่อพิสูจน์ทราบได้ว่าสาเหตุมาจากตัวเข็มเหล็ก จะมีวงเงินคุ้มครองความเสียหาย อย่างน้อยลูกค้าจะมีประกันรองรับ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ประกันภัยก็คงไม่มีใครอยากใช้ แต่ในมุมของเข็มเหล็กการทำในสิ่งที่ลูกค้ามั่นใจเป็นเรื่องสําคัญ จึงอยากฝากว่าก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ฐานราก ลองตรวจสอบความรับผิดชอบในส่วนนี้เพื่อความมั่นใจ” นายประเสริฐกล่าวย้ำ
ด้าน นายนนท์วริศ สมฤทธิ์ฐิติกุล ตัวแทน Allianz Ayudhya กล่าวว่า จากนโยบายและความมุ่งมั่นของผู้บริหารเข็มเหล็ก ได้สร้างนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความคาดหวังลูกค้า มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ความสําคัญและใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้า ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการติดตั้ง การรับประกันนี้สามารถรองรับความคุ้มครองกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด ผลิตภัณฑ์เกิดบกพร่อง หรือก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น ด้วยระบบการบริการหลังการขายการดูแลใส่ใจแบบครบวงจร
“เข็มเหล็กตอบโจทย์เรื่องผลิตภัณฑ์ที่สร้างความยั่งยืนของก่อสร้างฐานราก ตอบโจทย์ ESG สิ่งแวดล้อม สังคม การบริหารจัดการและการกำกับดูแล ให้ความสำคัญว่าลูกค้าต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อเข็มเหล็กมีความชัดเจนต่อผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้า และต้องการสร้างความมั่นใจหากเกิดผลกระทบจึงไว้วางใจให้เราดูแลเรื่องของการประกันภัย เป็นจุดหนึ่งที่สามารถสนับสนุนทําให้เข็มเหล็กสามารถบอกกับลูกค้าได้ว่าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างมั่นใจ” นายนนท์วริศเสริม
ขณะที่ ดร.นครินทร์ ศรีสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า ในด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์มีกระบวนการทดสอบ ทั้งในส่วนที่บริษัททําการทดสอบเอง และองค์กรภายนอกทำการทดสอบอาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงหน่วยงานเอกชนต่างๆ ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าสินค้ามีกระบวนการทดสอบ ตรวจสอบควบคุมคุณภาพ ทําให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถใช้งานฐานรากที่มีความแข็งแรง ปลอดภัย
“Allianz Ayudhya ที่ให้การประกันมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเรื่องของความแข็งแรง ซึ่งความแข็งแรงก็แยกเป็น 2 ส่วน คือ วัสดุในกระบวนการผลิต มีการตรวจสอบสินค้า กระบวนการเชื่อม และทดสอบความแข็งแรง หลังจากนั้นก็จะมีการตรวจสอบหน้างาน มีการทดสอบเรื่อง Vibration เข้ามาเกี่ยวข้องว่าโครงสร้างที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างด้านบน รวมไปถึงอาคารสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นใช้สินค้าในการก่อสร้างเป็นอาคารฐานรากด้วยความมั่นใจ” ดร.นครินทร์กล่าว
รศ.ดร.พรเทพ เหมือนพงษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรุกขกร หรือหมอต้นไม้ ต้องยอมรับว่าเข็มเหล็กมีไลน์โปรดักส์ที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้นั่นคือ Flexi Tree ซึ่งเป็นระบบการค้ำยันที่เกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันไม่เคยมีมาตรฐานใดบอกว่าค้ำยันแบบไหนที่เหมาะสมหรือมีความแข็งแรงมากพอ ซึ่งเรามักเห็นภาพต้นไม้ล้มในช่วงหน้าฝนอยู่เสมอ จึงนับว่าเป็นโอกาสดีมากที่ประเทศไทยมีการพัฒนาระบบการค้ำยันต้นไม้ที่สมบูรณ์และแข็งแรง รวมถึงมีการรับประกันภัยที่เกิดขึ้นในอนาคตซึ่งเป็นความไม่แน่นอน ในฐานะรุกขกรจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้
ผู้บริหารเข็มเหล็ก
“ในแต่ละปีมีผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนไม่น้อยจากต้นไม้ล้ม แต่ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่เหมาะสม มักใช้การตัดต้นไม้ให้เหลือแต่ต้นเพื่อไม่ให้ล้ม แต่ในความเป็นจริงไม่จําเป็นต้องทําแบบนั้น หากต้นไม้แข็งแรงหรือมีระบบค้ำยันที่ปลอดภัยมากพอ นั่นคือสิ่งที่ทางรุกขกรได้ก้าวเข้ามาร่วมงานกับเข็มเหล็ก และในอนาคตจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ร่วมกัน มีงานวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาหลายสถาบัน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นเมือง ซึ่งวิธีการค้ำยันที่แข็งแรงอาจจะไม่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ หรือมีโครงสร้างที่ซับซ้อน เพื่อสร้างความเหมาะสมกับความเป็นเมืองที่ค่อนข้างแน่นอย่างกรุงเทพฯ บ้านที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่แต่ต้องการค้ำยันที่ปลอดภัย รวมถึงมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับต้นทุนที่ต้องจ่าย” รศ.ดร.พรเทพกล่าวย้ำ