สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 ระบุว่า ศาลประชาชนนครโฮจิมินห์ ซิตี้ ในเวียดนาม ตัดสินประหารชีวิต นาง เจือง หมี่ ลาน อภิมหาเศรษฐินี ชาวเวียดนาม วัย 67 ปี ประธานกลุ่มบริษัท วัน ถิงห์ ฟัต ซึ่งเป็นเครือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ เนื่องจากพบว่า กระทำความผิดในคดีฉ้อโกงเงินมหาศาลของธนาคาร ไซง่อน คอมเมอร์เชียล หรือ SDB เป็นมูลค่ามหาศาล กว่า 12,530 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.4 แสนล้านบาท ในช่วง 11 ปี นับเป็นคดียักยอกเงินธนาคารและฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดของเวียดนามและในโลกเลยทีเดียว
นอกจาก นางเจือง หมี่ ลาน แล้ว ยังมีจำเลยในคดีนี้อีกจำนวนถึง 85 คน ได้ถูกศาลเวียดนามตัดสินกระทำความผิดในข้อหายักยอกทรัพย์ ละเมิดกฎหมายการธนาคาร โดยมีจำเลย 4 คนถูกศาลเวียดนามตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยคนอื่นๆ ถูกตัดสินจำคุกลดหลั่นกันไปเฉลี่ยราว 20 ปี และรอลงอาญา 3 ปี ส่วนนายสามีของนางเจือง หมี่ ลาน ถูกตัดสินจำคุก 9 ปี
สำหรับการยักยอกทรัพย์ครั้งมโหฬารจากธนาคารไซง่อน คอมเมอร์เชียล กว่า 12,530 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.4 แสนล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเวียดนาม (GDP) นั้น เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2011 เมื่อเจือง หมี่ ลาน เริ่มซื้อหุ้นของธนาคารเวียดนาม 3 แห่ง ผ่านนอมินี หรือตัวแทน 27 ราย และถือในนามตัวเองเพียง 4% เนื่องจากตามกฎหมายเวียดนามกำหนดไว้ว่า บุคคลธรรมดาสามารถถือหุ้นของธนาคารได้ไม่เกิน 5%
อย่างไรก็ตาม 1 ปีต่อมา เจือง หมี่ ลาน เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม ก็จัดการควบรวมกิจการของธนาคาร 3 แห่ง ภายใต้ชื่อธนาคารไซง่อน คอมเมอร์เชียล หรือ SCB และยังคงรักษาระดับหุ้นในนามตัวเองไว้เพียง 4% จากนั้น ได้ตั้งคนใกล้ชิดเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของธนาคารไซง่อน คอมเมอร์เชียล ที่ทำให้กลุ่มบริษัท วัน ถิงห์ ฟัตได้วงเงินกู้ไม่จำกัด และไม่ต้องมีการตรวจสอบเอกสารใดๆ
กระทั่งในที่สุด พฤติกรรมยักยอกเงินธนาคารมหาศาลของนางเจือง หมี่ ลาน ก็ถูกขุดคุ้ยและถูกเปิดโปง จนนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่รัฐบาลเวียดนามรณรงค์ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างหนัก ส่งผลให้ประธานาธิบดี 2 คน และรองนายกรัฐมนตรี 2 คน ถูกบีบให้ลาออก และเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนถูกลงโทษทางวินัย หรือจำคุก