ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เดินทางมาเชียงใหม่กันคึกคักโดยเฉพาะชาวยุโรป ช่วงนี้จะเห็นว่านิยมนั่งรถสามล้อแรงคนชมเมือง โดยในอดีตรถสามล้อถีบถือเป็นสัญลักษณ์ คู่เมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือให้บริการแค่ 30 คัน รับนักท่องเที่ยวไปสิ้นสุดที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เชียงใหม่ ได้ค่าจ้างครั้งละ 250 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวจีนนิยมถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบที่ประตูท่าแพมากกว่า

กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากยุโรป ยังคงนิยมนั่งรถสามล้อแรงคน เที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ ทั้งตลาดต้นลำไย จากนั้นนั่งชมเมืองไปตามถนนท่าแพ นำสามล้อปั่น ขึ้นไปจอดบนข่วงประตูท่าแพถ่ายภาพหมู่ จากนั้นปั่นผ่านประตูท่าแพไปตามถนนราชดำเนิน เลี้ยวซ้ายถนนพระปกเกล้า ไปสิ้นสุดที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ระยะทางทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตร ได้ค่าจ้างคันละ 250 บาท ซึ่งเป็นราคาที่พอใจ

นายแดง คำนันตา อายุ 65 ปี นักปั่นสามล้อแรงคนมานานกว่า 30 ปี บอกว่า ปัจจุบันมีความเจริญเข้ามา และมีรถบริการสาธารณะเพิ่มมากขึ้น ประชาชนนิยมนั่งสามล้อปั่นน้อยลง แต่ก็จะมีลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยรุ่นเก่า ใช้บริการนั่งไปซื้อสินค้าที่ตลาดสด หรือมีไกด์นักท่องเที่ยวยุโรป มาจัดหาสามล้อปั่นให้ชาวต่างชาตินั่งชมเมือง ซึ่งก็ทำให้พอมีรายได้ ซึ่งปัจจุบันเหลือแค่ 30 คัน และส่วนใหญ่คนยึดอาชีพนี้อายุก็เกิน 60 ปี บางคนเลิกอาชีพนี้ไปเพราะอายุมากขึ้น ทำให้เหลือไม่เยอะ

นักปั่นสามล้อแรงคนเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ส่วนนักท่องเที่ยวจีนจะไม่นิยมนั่งสามล้อปั่น แต่จะนั่งรถสามล้อตุ๊กๆ และจะเช่าชุดไทยสวมใส่มาถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบ บริเวณข่วงประตูท่าแพ และชอบซื้อมะพร้าวน้ำหอมดื่ม และรับประทานเนื้อมะพร้าวอ่อน ทำให้แม่ค้ารถเร่บนประตูท่าแพก็พอขายดี มีรายได้