เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สอท. รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ บช. สืบเนื่องจากภาครัฐได้ตระหนักถึงการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้ามุ่ง เป้าทําการตลาดกับเด็กและเยาวชน โดยใช้การแต่งกลิ่นและรส มีมากถึง 16,000 รูปแบบ และบุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นประตู ให้เด็กและเยาวชนสู่ยาเสพติดชนิดอื่นๆจึงเป็นเหตุให้ภาครัฐมุ่งเน้นปราบปราบการลักลอบจําหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 ให้กําชับเจ้าหน้าที่ตํารวจใน สังกัด ให้ทําการสืบสวนผู้ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจําหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อทําการกวดขันบังคับใช้ กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.สอท.2 ได้ทําการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เกี่ยวกับผู้ลักลอบจําหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ํายา บุหรี่ไฟฟ้า ให้กับบุคลทั่วไปในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดชลบุรี และได้เข้าทําการตรวจค้นและจับกุมตัว นายหัถตชัยฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ํายาบุหรี่ไฟฟ้า รวม 370 ชิ้น มูลค่าของกลางคิดเป็นเงินจํานวนประมาณ 50,000 บาท พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.สอท.2 ทําการสืบสวนขยายผลการจับกุมให้ถึง แหล่งที่มา จุดกระจายสินค้า และผู้ทําหน้าที่ค้าส่งหรือส่งสินค้าดังกล่าวมาให้กับ นายหัถตชัยฯ(สงวนนามสกุล)ผู้ต้องหาเพื่อนําตัวมาดําเนินคดีและตรวจสอบหาแหล่งที่มาของสินค้าดังกล่าว
จากการตรวจค้นและจับกุม นายหัถตชัย(สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พบพยานหลักฐานที่ในสถานที่จับกุม จนทําให้ เจ้าหน้าที่ตํารวจสืบสวนทราบว่า บุหรี่ไฟฟ้าและน้ํายาบุหรี่ไฟฟ้า ที่นายหัถตชัย(สงวนนามสกุล) นํามาขายนั้น ถูกส่งมา
จากผู้ค้าส่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ นายรัชชานนท์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ซึ่งทําหน้าที่เป็นผู้จําหน่ายและผู้จัดส่งสินค้า คือเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า และน้ํายาบุหรี่ไฟฟ้า และ ได้ทําการขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าทําการตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจะเป็นแหล่งเก็บ ซุกซ่อนและจําหน่าย บุหรี่ไฟฟ้า
จํานวน 2 จุด
ต่อม โดยการอํานวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกภณ คณะญาพงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 และ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ศรีกุฎ สว.กก.2 บก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.สอท.2 ได้ร่วมกับ พนักงานเจ้าหน้าที่สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ภายใต้การอํานวยการของ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค ,นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อํานวยการส่วนบังคับคดี สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผอ.ฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์ และนายศรัทธา วงศ์ราษฎร์ นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ ได้ร่วมกันปฏิบัติการ ทลายแหล่งเก็บสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า ที่ผิดกฎหมาย โดยได้นําหมายค้น เข้าตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้อง จํานวน 2 จุด โดยจุดที่ 1 เจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยบางทราย 63 หมู่ที่ 5 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บ ซุกซ่อน สถานที่แพ็คของ จากการตรวจค้นพบ นายรัชชานนท์ฯ อายุ 25 ปี แสดงตนเป็น ผู้ดูแล/เจ้าของบ้าน ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า จํานวน 12 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 1,560 บาทและอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจได้นําตัว นายรัชชานนท์ฯ มาตรวจค้น จุดที่ 2 ซึ่งตนรับว่าเป็นสถานที่ที่ตนเป็นผู้ครอบครองจริง เจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงได้แสดงหมายค้นและเข้าตรวจค้น ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาชื่อดังของจังหวัดชลบุรี เพียง 300 เมตร จากการตรวจค้น/ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า น้ํายา บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด จํานวนกว่า 5,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าในจุดนี้ นายรัชชานนท์ฯ ใช้เป็นสถานที่เก็บบุหร่ีไฟฟ้าและน้ํายาบุหรี่ไฟฟ้า
จากการตรวจค้น ทั้ง 2 จุด ได้จับกุมตัว นายรัชชานนท์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.148/2567 ลง วันที่ 25 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือ รับไว้ โดยประการใดๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่มิได้ผ่านพิธีศุลกากรฯ,ฝ่าฝืนคําสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ํายาสําหรับเติม บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” และตรวจยึดของกลางจํานวนกว่า 5,000 ชิ้น ตีมูลค่าสินค้าเป็นจํานวนเงินประมาณ 1,001,560 บาท จึงนําตัวผู้ต้องหาและของกลาง นําส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย
ต่อไป