กรณี เฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพควายเผือกยักษ์ พร้อมกับเขียนข้อความว่า เราสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมควายไทยโตได้กว่านี้ครับ สมาชิกสมาคมพัฒนาควายไทย นำน้อง “โก้ เมืองเพชร” ควายเผือกค่าตัว 18 ล้าน เข้าไปพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมควายไทยให้เป็น Soft Power เพราะเป็นควายยักษ์สวยงาม มีอัตลักษณ์เฉพาะของควายไทย หากเอาควายยักษ์ไป Roadshow ขายที่มีตลาดจีน เวียดนาม จะมีมูลค่าสูงขึ้นทันที ไม่ใช่เป็นควายเนื้อราคาถูก หากส่งเสริมให้เลี้ยงเป็นกิจจะลักษณะ สามารถต่อยอดให้พี่น้องเกษตรกรสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับควายได้อีกมากเช่น นมควาย รกควาย เสื้อฟาร์มควาย (ที่กำลังมาแทนเสื้อทีมฟุตบอล) กางเกงควาย การปลูกหญ้า รวมๆ แล้วสร้างรายได้ให้เกษตรกรดีกว่าการปลูกข้าวถึง 3 เท่า และมูลควายยังสามารถเก็บมาทำปุ๋ยอินทรีย์ขายได้ราคา และเป็นการลดมลพิษจากปุ๋ยเคมี เราสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมควายไทยโตได้กว่านี้ครับ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ชาลีฉายฟาร์ม เลขที่ 94/1 หมู่ 3 ซอยราษฎร์บูรณะ 1 บ้านชัยพร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี พบ ร.ต.อ.จีรศักดิ์ คำวะเนตร อายุ 42 ปี ผบ.มว.กก.ตชด.24 ร.ต.อ.หญิง อรษา คำวะเนตร อายุ 38 ปี รอง สว.กก.4 บก.กฝ บช.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี เจ้าของเจ้า “ช้างอุดร” ควายยักษ์ ที่มีรูปร่างใหญ่ที่สุดในโลก สูง 178 เซนติเมตร ซึ่งดาวเด่นของฟาร์ม กวาดรางวัลมามากมาย และเป็นควายที่มีต้องการซื้อน้ำเชื้อมากที่สุด
ร.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ควายไทยมีมูลค่าสูงว่า ควายเป็นสัตว์พื้นถิ่นของเอเชียอยู่แล้ว มี 2 พันธุ์คือ ควายปลัก และควายแม่น้ำ ซึ่งควายแม่น้ำมีรูปร่างลักษณะเหมือนควายอินเดีย ตัวดำไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่จะให้นม ส่วนควายไทยจะให้เนื้อ เชื่องและเลี้ยงง่าย มีสีสันที่สวยงาม มีลักษณะเด่นคือ ตาแต้ม แก้มจ้ำ คออ้อ ถุงเท้าขาว โดยปกติควายพันธุ์ไทยจะตัวเล็ก ซึ่งเกิดจากการพัฒนาของคนที่เลี้ยงควายยุคเก่า เอาตัวที่มีขนาดใหญ่มาผสมกันจนเลือดนิ่ง กระทั่งเกิดเป็นควายอีกรูปใหม่ขึ้นมาเรียกว่า “ควายงาม”
“ควายไทยงาม มีรูปร่าง ยาวสูงใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งปกติควายไทยจะสูงประมาณ 150 ซม.แต่ปัจจุบันมีความสูงถึง 170-180 ซม. ซึ่งที่อื่นไม่มี มีแต่เฉพาะในประเทศไทยที่เดียว ทุกคนจึงต้องการสายพันธุ์ที่พัฒนาแล้วไปต่อยอดกับของเดิมที่มี ประกอบกับเพื่อนบ้านที่ไปมาหาสู่เช่น เวียดนามเข้ามาซื้อควายเนื้อ เห็นควายไทยจึงมีความต้องการนำควายกลับไปเวียดนาม ทำให้ราคาควายไทยดีดสูงขึ้นเรื่อยๆ” เจ้าของ ชาลีฉายฟาร์ม กล่าว
ร.ต.อ.จีรศักดิ์ เล่าถึงการเลี้ยงดูควายไทยว่า ควายพันธุ์ไทยที่รูปร่างสูงใหญ่ หรือเรียกว่า “ควายสวยงาม” เกิดจากการพัฒนาควายพื้นบ้านของเราเอง คือ เอาควายตัวใหญ่จากอีสานไปผสมกับควายภาคกลาง แล้วเอาภาคกลางไปผสมกับ 7 ภาคเหนือ ซึ่งสภาพพื้นถิ่นภูมิอากาศและชีวิตความเป็นอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว แค่ได้รับจุดเด่นของพันธุกรรม ความยาว ความสูง และความใหญ่ ของแต่ละพ่อพันธุ์ทำให้เลือดพันธุกรรมมันนิ่ง ส่วนการเลี้ยงดูก็เลี้ยงตามปกติ ตามสภาพปกติ คือตอนเช้าปล่อยออกไปกินหญ้า เที่ยงนอนน้ำ เย็นกินและนอนเคี้ยวเอื้องเป็นปกติวิสัย แต่เพิ่มปริมาณการกิน จากปกติ 50 กก.เพิ่มเป็น 100 กก.
เจ้าของ ชาลีฉายฟาร์ม เล่าว่า จริงๆ แล้ว ควายไทยมีอยู่ตามบ้านคนไทยอยู่แล้ว แต่มียุคหนึ่งควายหายไปจากวิถีชีวิต แต่ว่ามันกลับมาสู่วิถีชีวิตของคนไทย โดยกลับมาในรูปแบบใหม่ ตัวใหญ่ขึ้น สวยงามขึ้น อัตราการแลกเนื้อก็สูงขึ้น และสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของ เช่นควายตัวผู้ได้รับการพัฒนาพันธุ์ขึ้นมาแล้ว เอาน้ำเชื้อไปผสมกับควายธรรมดาที่ยังไม่พัฒนา ลูกออกมาก็โดดเด่นพัฒนาขึ้นมา สมมติว่าปีนี้ขายได้ 4 หมื่น เมื่อปรับปรุงพันธุ์แล้ว อาจจะขายได้ปีละ 1 แสน มันเพิ่มมูลค่าให้กับผู้เลี้ยงเป็นรูปธรรม ทั้งการขายเนื้อ และนำไปเป็นแม่พันธุ์เพื่อต่อยอด ทำให้เห็นเป็นวงกว้าง เลยมีคนที่สนใจเลี้ยงควายเพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงเยอะขึ้น เมื่อความต้องการมาก ราคาก็ดีดขึ้นไป เป็นเหตุผลที่วงการควายมีคนสนใจ ราคาค่อนข้างสูงในช่วงนี้
ร.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มวงการควายพันธุ์ไทย ในมุมมองของตน ในอนาคตถ้ามีการผลักดัน ณ ปัจจุบันในภูมิภาคเอเชียที่มีควาย จะยังไม่เห็นควายไทยที่ได้รับการพัฒนาว่าใหญ่โต เมื่อเรามีสื่อต่างๆ หรือมีการส่งเสริมในหน่วยงาน เพื่อให้ประเทศที่เลี้ยงควายเช่น จีน เขมร เวียดนาม ได้เห็นว่าควายไทยรูปร่างใหญ่ขนาดนี้ ต้องการเอาพันธุ์ควายไทยที่พัฒนาไปปรับปรุงควายของเขาเพิ่มมากขึ้น ตนคิดว่าแนวโน้มจะไปได้ไกล แต่ต้องอาศัยภาครัฐ หรือสื่อต่างๆ ช่วยส่งเสริมให้เพื่อนบ้านหรือทั้งโลกได้รู้ ประเทศไทยยังมีมุมสัตว์ประเภทหนึ่งที่ตัวใหญ่ สวยงาม เพิ่มอัตราการแลกเนื้อได้ มันจะเติบโตไปมากกว่านี้
เจ้าของ ชาลีฉายฟาร์ม กล่าวถึงการผลักดันให้ควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ว่า ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในเอเชียที่มีสายพันธุ์ควายปลัก เราสามารถพูดว่ามีอยู่ในประเทศไทยที่เดียว ที่มีพันธุ์ควายปลักที่ใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่าควายแม่น้ำ และมีอัตราการแลกเนื้อที่สูงยิ่งกว่าควายแม่น้ำ หรือควายสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ ถ้าเราผลักดันควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ เราจะเป็นที่เดียวในโลกที่มีควายปลักที่ใหญ่ที่สุด ประเทศที่มีควายสายพันธุ์เดียวกับเรา คือ ควายปลัก มีโคโมโซม 48 คู่ ถ้าได้เห็นควายไทยยุคพัฒนาแล้ว ตนรับรองว่าเขาจะต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเชื้อ แม่พันธุ์ เข้าไปพัฒนาควายเขาแน่นอน เช่น ลาวถ้ามีควาย 1 ล้านตัว และมาเห็นควายไทยว่าใหญ่ สิ่งที่เขาต้องการคือน้ำเชื้อ แม่พันธุ์เพื่อไปปรับปรุงพันธุ์ควายของเขาให้ใหญ่เหมือนกับควายของเรา
“คิดว่าน่าจะผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ได้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราไม่ได้ส่งออก อาจจะมีการแอบส่งออกควายงาม ในมูลค่าที่สูง บางคอกบางฟาร์มเป็นเหมือนนายทุนในเวียดนาม หรือจีนมาเห็นแล้ว และไปซื้อควายในตลาดนัด แต่ไม่สามารถเอาออกนอกประเทศได้ แต่ซื้อไว้ให้คอก หรือฟาร์มเลี้ยงไว้ หลังจากนั้นเอาไปเดินสายประกวด หรือรีดน้ำเชื้อขาย หากมีการผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ หรือส่งเสริมให้ส่งออกได้ ผมว่าน่าจะไปได้ไกล” ร.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าว