จากกรณีเหตุไฟไหม้ป่า ที่เกิดจากน้ำมือชาวบ้านเผาป่าเพื่อเก็บหาของป่า บนเทือกเขาภูแลนคา ทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา และในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน โดยไฟไหม้กระจายไปหลายจุดบนเทือกเขาภูแลนคาจังหวัดชัยภูมิเริ่มลุกลามขยายวงกว้างไปทั่วภูเขา และยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงง่ายๆ
ล่าสุดขณะนี้เปลวเพลิงได้ลามลุกไหม้ ต้นไม้ ใบหญ้า อย่างรุนแรงตามแนวป่าไม้เต็งรัง ในเขตอุทยานตาดโตน เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และไหม้ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เกินกว่ากำลังเจ้าหน้าที่ฯ จะดับสกัดเอาไว้ได้ และไม่มีทีท่าจะดับลงง่ายๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ไฟป่าที่ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่ามาทั้งวันทั้งคืน 2-3 วัน หลายคนเริ่มอ่อนแรง ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฯ และรถดับเพลิง จากองค์การบริหารฯ ต่างๆ เพื่อมาสนับสนุนช่วยดับไฟป่า กันอย่างโกลาหล
ด้าน นายนพวงค์ พฤกษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ น้ำตกตาดโตน กล่าวว่า หลังเกิดไฟป่ารุกไหม้บนเทือกเขาภูแลนคามานับ 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเปลวเพลิงได้รุกไหม้เป็นจุดและขยายวงกว้างนั้น ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่แยกเป็นชุดๆ ออกเดินทางเร่งดับไฟป่ากันทั้งวันทั้งคืน เจ้าหน้าที่หลายรายเริ่มอ่อนแรง ซึ่งขณะนี้ได้ขอความช่วยเหลือจาก องค์การบริหารต่างๆ ที่อยู่รอบๆ อุทยานฯ ได้ส่งรถดับเพลิงและกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฯ มาช่วยดับเพลิงเป็นการด่วนแล้ว เชื่อว่าขณะนี้กำลังสกัดเปลวเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นเกิดจากฝีมือชาวบ้าน ที่เก็บหาของป่าจำพวกผักหวานป่าชาวบ้านต่างจะพากันเผาป่าเพื่อให้ไหม้ต้นผักหวานป่า และจะได้แตกยอดอ่อนขึ้นมาอีก ก่อนจะพากันออกหาเก็บหาผักหวานแล้วไปขายกันทุกปี ซึ่งปีนี้นับว่าเกิดไฟป่าไหม้รุนแรงหนักสุดในรอบ 10 ปี
นอกจากนี้มีรายงานปริมาณฝุ่นละออง หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ พบค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองควันพิษ หรือค่า PM 2.5 อยู่ที่ 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือ AQI อยู่ที่ 76 อยู่ในกลุ่มสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสาเหตุของการเกิด PM 2.5 ในพื้นที่นั้น คาดว่าจะมาจาก การเกิดไฟป่าในพื้นที่ตามเทือกเขาภายในอุทยานแห่งชาติต่างๆ ซึ่งเกิดจากฝีมือชาวบ้านเกษตรกรชาวบ้านที่ลักลอบเผาป่าเพื่อให้หญ้าระบัดแตกใบอ่อน หรือหาของป่าไปขายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่ามีเกษตรกรที่ลักลอบเผา ไร่อ้อย เพื่อต้องการให้ตัดอ้อยง่ายขึ้น แต่ส่งผลกระทบในเรื่องฝุ่นพิษตาม
