เมื่อเอ่ยถึง “จังหวัดเกินร้อย” เชื่อว่าหลายคนต้องร้องอ๋อว่าหมายถึง “ร้อยเอ็ด” ดินแดนที่เปี่ยมล้นไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมและมรดกจากประวัติศาสตร์อันล้ำค่า แห่งลุ่มแม่น้ำชีของภาคอีสาน

“ร้อยเอ็ดเมืองอัจฉริยะ ท่องเที่ยวสร้างสรรค์ วัฒนธรรมสร้างมูลค่า สังคมพัฒนาอย่างยั่งยืน” เป็นเป้าหมายตามแผนพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด (พ.ศ. 2566-2570) ที่มุ่งเน้นการนำจุดเด่นและทรัพยากรต่างๆ ภายในจังหวัดมาพัฒนาควบคู่กัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนรอบด้าน

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญเพื่อมุ่งสู่การเป็น “เมืองเกษตรอัจฉริยะ” เกษตรกรที่นี่จึงเริ่มปรับตัว โดยการเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาทักษะและเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่มีหน่วยงานภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุน

นางพยอม สิงห์นาแพง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำนาดี บอกเล่าว่า กระทรวงพลังงานได้เข้ามาแนะนำแนวทางการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เกิดประโยชน์ พร้อมทั้งติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในการสูบน้ำ ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้จากการปลูกพืชในหน้าแล้ง โดยก่อนหน้าที่จะมีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนใหญ่เกษตรกรจะใช้น้ำมันกับเครื่องสูบน้ำ การปลูกพืช 1-2 ไร่ ต้องจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 500-600 บาท/วัน แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาแล้ว ทำให้ลดต้นทุนลงไปได้มาก ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยประหยัดลงไปได้มาก

“นอกจากระบบโซลาร์เซลล์สูบน้ำแล้ว กระทรวงพลังงานก็ยังให้โรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ และตู้แช่พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้เกษตรกรไว้ใช้พักสินค้าทางเกษตร ได้รวมตัวกันเพื่อแปรรูปสินค้าทางการเกษตร เป็นการปรับตัวที่มองเห็นการพัฒนาขั้นอย่างเห็นได้ชัด ต้องขอบคุณทางกระทรวงพลังงานที่รับฟังความต้องการของเกษตรกร และให้การสนับสนุนในส่วนนี้อย่างจริงจัง” นางพยอมกล่าว

ขณะที่ นายสุทัศภูมิ เชื้อทอง เขียวอ่อน รักษาราชการแทนพลังงานจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึงการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานว่า มีการส่งเสริมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยต้นน้ำคือ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นระบบขนาดใหญ่ช่วยชดเชยการใช้พลังงานไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 390,000 หน่วย คิดเป็นเงินราว 1,200,000 บาท/ปี ส่วนกลางน้ำ เป็นการสนับสนุนระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่ปลายน้ำเป็นการสนับสนุนตู้แช่พลังงานแสงอาทิตย์ผสมผสานกับระบบไฟฟ้า

“การส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีพลังงานที่เหมาะสม เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่จากกระทรวงพลังงาน เพื่อให้สามารถเข้าใจและเข้าถึงความรู้ด้านพลังงาน นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละชุมชน ซึ่งเชื่อว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อไปได้” นายสุทัศภูมิ กล่าวย้ำ

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคำนาดี อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด หรือ สำนักงานพลังงานจังหวัด โทร. 04-3514995