“ปาล์มน้ำมัน”ราคาพุ่ง 2 ปีซ้อน เกษตรกร แห่ทยอยปลูก ปีละ 30 % หลายปัจจัยสนับสนุนทั้งภายในและภายนอก ระบุ ต้นกล้าราคาร่วงลงจาก 240 บาท เหลือ 150 บาท ประกอบกับโค่นยางนาได้เงินสนับสนุน 10,000 บาท พื้นที่รกร้าง นาร้าง แห่พ้นเสียภาษีหันมาปลูก ระบุ แหล่งทำเลทอง “ลุ่มน้ำปากพนัง” รอยพื้นที่ จ.พัทลุง นครศรี สงขลา ที่ดินราคาพุ่ง จากไม่มีราคาปรับขึ้น 100,000 – 200,000 บาท ส่วนที่สวนปาล์มน้ำมันทะยานขึ้น 300,000 บาท / ไร่

นายโอภาส หนูชิต เจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ภาวะราคาปาล์มน้ำมันขณะนี้ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี โดยราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่กว่า 5 บาท 6 บาทกว่า มาตลอดจากราคาที่เคยปรับตัวสูงขึ้นถึง 12 บาท / กก.

“ตอนนี้ปาล์มน้ำมันยังไม่มีอุปสรรค และแนวโน้มราคาคาดว่าจะทรงตัวกับจะปรับตัวขึ้น แต่ว่าตอนนี้เข้าช่วงปาล์มน้ำมันพักต้น แต่จะไม่พร้อมกันจะเป็นไปตามสภาพภูมิอากาศของแต่ละพื้นที่ บางพื้นที่ตั้งแต่เดือนกันยายน ตุลาคม ส่งผลให้ปาล์มน้ำมันผลผลิตหดตัวไปประมาณ 30 % ของบางพื้นที่ ก็จะส่งผลต่อโรงงานแปรรูปผลิตปาล์มน้ำมันไปในระดับหนึ่ง”

นายโอภาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้พื้นที่ลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันกันมากคือลุ่มน้ำปากพนัง รอยต่อ 3 จังหวัดในบางอำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ประมาณปลูกเกินกว่า 100,000 ไร่ขณะนี้ ทั้งนี้เดิมนั้นราคาที่ดินราคาจะไม่สูงมากน แต่มาตอนนี้ราคาดินเปล่าอยู่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท / ไร่ และที่ดินที่เป็นสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ประโยชน์แล้วราคาประมาณ 200,000 – 300,000 บาท / ไร่

นายไหร่ ทักษิณาวาณิชย์ ผู้ประกอบการประมง และเจ้าของสวนยาง ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า ที่ดินแปลงหนึ่งโดยจะขายเพื่อการประกอบอาชีพเกษตรที่เหมาะสมสำหรับสนใจที่จะลงปลูกปาล์มน้ำมัน ฯลฯ เพราะยังเป็นพื้นที่สวนยางอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 11 ไร่เศษ ซึ่งแวดล้อมด้วยน้ำที่สมบูรณ์เนื่องจากมีพื้นที่ทางน้ำไหลผ่านตลอดปีจะเหมาะสมกับการปลูกปาล์มน้ำมัน จากปาล์มน้ำมันที่จะบริโภคน้ำปริมาณมาก / วันที่จะให้ผลผลิตที่สมบูรณ์

นายไหร่ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ดินจะขายในอัตราประมาณ 220,000 ไร่ พร้อมมีเอกสารสิทธิ์ที่เป็นโฉนด ซึ่งราคาสามารจะต่องรองได้ด้วย ซึ่งที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการเกษตร ปาล์มน้ำมันจะหาได้อยากมากราคาในระดับนี้ 1 ในร้อยแปลง เท่านั้นที่จะบอกขาย หากมีผู้สนใจสามารถติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 065 0513260.

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการเกษตร เปิดเผยว่า เหตุผลที่มีการขยายตัวปลูกปาล์มน้ำมันกันเพิ่มขึ้นตามลุ่มน้ำปากพนังรอยต่อ 3 จังหวัด จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และ จ.สงขลา เพราะเป็นพื้นที่เหมาะสมกับปลูกปาล์มน้ำมัน เป็นน้ำอุดมสมบูรณ์ โดยมีการโค่นยางนา โดยพื้นที่ยางนาจะได้รับการสนับสนุนเงินทุจากกองทุนสงเคราะห์ทำสวนยาง การยางแห่งประเทศไทย จำนวน 10,000 บาท / ไร่

ส่วนนาข้าว จากที่ไม่มีราคาที่เป็นแรงจูงใจที่ผ่านมา และยังมีพื้นที่รกร้าง เมื่อมีการปล่อยทิ้งจะมีการเสียภาษีที่เพิ่มขึ้นทุกปี และประกอบกับราคาปาล์มน้ำมันราคาดีมาตลอด 2 ปี จึงหันมาลงทุนยกร่องปลูกปาล์มน้ำมัน

“โดยเฉพาะ อ.ระโนด จ.สงขลา อำเภอเดียวซึ่งเป็นแหล่งนาข้าวรายใหญ่ จ.สงขลา ประมาณ 100,000 ไร่ ตอนนี้ได้หันมาปลูกปาล์มน้ำมันเหลือนาข้าวประมาณ 70,000 ไร่ ยังไม่รวมถึง อ.กระแสสินธ์ อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร ส่วน จ.พัทลุง จ.นครศรีธรรมราช แทบเต็มพื้นที่ริมทะเลสาบ และลุ่มน้ำปากพนัง โดยประมาณขณะนี้เกินกว่า 100,000 ไร่”

นายสมศักดิ์ พาณิชย์ เจ้าของสวนปาล์มน้ำมันและลานปาล์มน้ำมัน อ.ระโนด จ.สงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ปาล์มน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาร่วม 2 ปี จากที่ขึ้นมาถึงกว่า 10 บาท / กก. ซึ่งขณะปรับตัวมาอยู่ที่ 5 บาทกว่า และกว่า 6 บาท 6.10 – 6.30 บาท / กก.

ปัจจัยสำคัญที่ราคาอยู่ในเกณฑ์มีทั้งปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ คือภัยแล้ง หรือเอลนิโญ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและเรื่อง เช่น สงครามสงครามยูเครน รัสเซีย และล่าสุดระหว่างกลุ่มฮามาสปาเลสไตน์ ประเทศอิสราเอล

สำหรับการลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันภาพรวม ๆ ขณะนี้ประมาณถึง 30 % /และบางปีที่ราคากว่า 10 บาท / กก. มีการลงทุนปลูกเพิ่มขึ้นเกือบ 40 % ประกอบกับต้นกล้าปาล์มน้ำมันมีส่วนส่งเสริมเพราะราคาได้ปรับตัวลงจาก 240 บาท / ต้น มาอยู่ที่ 150 บาท / ต้น

ส่วนต้นกล้าปาล์มน้ำมัน ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นคือสายพันธ์ยูนิค จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช เพราะมีปริมาณน้ำมันสูงสุดถึง 22 % และยังมีอีกหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์สุราษฎร์ 1 2 และสุราษฎร์ 7 ฯลฯ
สำหรับประเด็นเรื่องพันธุ์ปาล์มน้ำมันปลอมหรือด้อยคุณภาพมีผลิตปริมาณน้อย ยังมีอยู่เนื่องจากกระบวนการเพาะพันธุ์ที่ไม่ถูกต้องโดยการอาจจะเอาลูกร่วงต้นใต้โคนไปเพาะพันธุ์ซึ่งไม่ได้ผสมทางเกษตร ดังนั้นผู้ลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันจะต้องรอบคอบ ซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันจากศูนย์เพาะ ฯ ที่มีอนุญาตมีใบรับรองของทางราชการ จึงจะได้ต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันได้คุณภาพมีปริมาณผลผลิต

“ขณะนี้พื้นที่ลงทุนปลูกปาล์มน้ำมันยอดนิยมมากสุด คือลุมน้ำปากพนัง รอยต่อพื้นที่ 3 จังหวัด จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา มีการโค่นยางนา เพราะไม่มีความเหมาะสม และนาข้าวที่ราคาไม่จูงใจ ทั้งยางนาข้าวพื้นที่ต่างทยอยลดตามลำดับในภาคใต้”

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงประการสำคัญที่เกษตรกรได้สูญเสียไปโดยไม่ได้มีข้อมูล คือปาล์มน้ำมันเกษตรกรจะต้องมีข้อมูลรู้เรื่องเปอร์เซ็นต์ และน้ำหนักปาล์มน้ำมัน คือปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการ จะได้เปอร์เซ็นต์กว่า 18 % และสูงสุดถึง 20 – 22 % แต่เมื่อนำไปขายจะได้ประมาณ 18% ซึ่งจะสูญเสียไป 4 % สูงสุดและอีกส่วนคือเวลาเก็บเกี่ยวตัดปาล์มน้ำมันจะต้องตัดปาล์มสุกอยู่ที่ประมาณ 80 % ไม่ใช่สุกอยู่ที่ประมาณ 100 %

ซึ่งจะเป็นลูกร่วงจะสูญเสียน้ำหนักไปประมาณ 10-15 % จำนวน 1 โดยต่อตันน้ำหนักจะหายไปประมาณ 100 – 150 กก. เวลานี้ราคา 6.10 บาท / กก. จะเป็นเงินกว่า 600 บาท และ 900 บาท /ตันเป็นเงินที่ต้องหายไปโดยยังไม่รวมถึงค่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่หดหายไป 4 % ที่จะขึ้นกับราคาซีพีโอ.น้ำมันปาล์มที่ราคาจะแกว่งไม่นิ่ง.

โดย…อัสวิน ภักฆวรรณ