จากกรณีพนักงานอัยการแนะนำให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน และความผิดมูลฐานอื่น ซึ่งเป็นคดีที่ทำการสอบสวนต่อเนื่องเกี่ยวกันกับคดีพิเศษที่ 60/2563 (คดีชบา ภาค 1) ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ และเจ้าของร้านอาหารชื่อดังไปแล้วก่อนหน้านี้
ต่อมา พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้สั่งการให้กองคดียาเสพติด ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากนางชบาฯภายหลัง น.ส.ชบา ถูกจับกุมในคดี พ.ร.บ.ยาเสพติด ของเครือข่ายลำพูนวอริเออร์ (แต่ก็ต่อสู้คดีจนหลุด และยกฟ้องในชั้นศาล) ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เหตุใดจึงมีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนหลายพันล้านบาท
ซึ่ง น.ส.ชบาเป็นชื่อที่มีคนพูดถึงเยอะมาก แต่ไม่มีใครทราบรายละเอียดถึงเส้นทางการเงินดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนผ่านเส้นเงิน และระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดกว่า 5 เดือน จนพบว่า น.ส.ชบา เป็นหนึ่งในบัญชีม้ากว่า 80 บัญชี ที่มีเบื้องหลังบริหารจัดการโดยนายภาคภูมิ มีทั้งเอเย่นต์เว็บพนันออนไลน์ ประมาณ 50 คน ที่เหลือเป็นบัญชีม้าของบุคคลต่างด้าว ตรวจสอบพบเส้นเงินหมุนเวียนกว่าหมื่นล้านบาท ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นของการสอบสวนขยายเครือข่ายฯนี้นำไปสู่การจับกุม”ดีดี้-ภาคภูมิ”เจ้าพ่อพนัน UFA เจ้าพ่อเว็บพนันเบอร์ 1 ของประเทศไทย โดยจุดเริ่มต้นจาก ดีเอสไอ เกิดข้อสงสัยเกี่ยวก้บเส้นทางการเงินที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาลจึงใช้เวลาสืบสวน เสาะหาข้อมูลนานกว่า 5 เดือน พบว่า เส้นทางการเงินดังกล่าวโอนถ่ายเทผ่านระบบการทำงานของเครือข่ายยูฟ่า คือจะมีการขายไลเซนส์ (License) ให้กับเอเย่นต์ 50 เอเย่นต์ และแต่ละเอเย่นต์จะไปแตกแขนงเว็บพนันออนไลน์อื่นอีกจำนวนมาก และแต่ละเอเย่นต์จะต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับนายภาคภูมิ 3% โดยผ่านบัญชีม้า ที่ส่งต่อให้บัญชีของ น.ส.ชบา ก่อนจะส่งเข้าบัญชีของนายภาคภูมิ
ความยากของการสืบสวนครั้งนี้ พ.ต.ต.สุริยา บอกว่า นายภาคภูมิ ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไม่มีรถหรูหรือทรัพย์สินราคาแพง และมักจะเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ มีการใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ตามไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นทั่วไป จึงไม่พบลักษณะต้องสงสัย ซึ่งข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ที่ใช้ในการทำธุรกิจทั้งหมดนายภาคภูมิจะใช้นามแฝงว่า “ดีดี้” และไม่เคยออกหน้าปรากฏตัว เหมือนกับสารวัตรซัว และเอ็ดดี้ ซึ่งทั้งสารวัตรซัว และเอ็ดดี้ก็รู้จักนายภาคภูมิในนาม “ดีดี้” เท่านั้น
เครือข่ายของนายภาคภูมิ มาจากการซื้อไลเซนส์ คาสิโนชื่อดังในต่างประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน และฝั่งอเมริกา ยุโรป ซึ่งเป็นคนละไลเซนส์ กับเครื่อข่ายของสารวัตรซัวและเอ็ดดี้ อีกทั้ง นายภาคภูมิ เริ่มเข้าวงการพนันออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2560 แต่ดีเอสไอเริ่มพบความเคลื่อนไหว และมีพยานหลักฐานในช่วงปี 2563
ภายหลังจากดีเอสไอใช้เวลาในการสืบสวนกว่า 5 เดือน ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายภาคภูมิได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางกลับจากไปเที่ยวที่ฮ่องกงกับกลุ่มเพื่อน ในข้อหาจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ทางอิเล็กทรอนิกส์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้น นายภาคภูมิให้การภาคเสธเท่านั้น เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน แต่ระหว่างที่ ดีเอสไอ ควบคุมตัว มีทนายความส่วนตัวติดต่อเข้ามาทำคดีเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีตำรวจหลายนายที่ติดต่อมายังดีเอสไอ แต่ พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า ไม่รับการพูดคุย และไม่เอามาเป็นประเด็นในการดำเนินคดีกับนายภาคภูมิ
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้อายัติบัญชีไปหมดแล้ว 80 กว่าบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีที่นายภาคภูมิบริหารทั้งหมด และได้ออกหมายเรียกพยานคนสำคัญในเครื่อข่าย 2-3 คนมาสอบปากคำภายในสัปดาห์นี้ และให้พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกนายจ้าง และเจ้าของบัญชีม้ามาสอบปากคำภายในสัปดาห์ถัดไปเข้าชี้แจง
