ปราจีนบุรี–มติประชาคมชาวบ้าน 2 ตำบลกว่า 300 จาก ต.หาดนางแก้ว และ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี รอบ ๆพื้นที่ “ไม่เอา” ฝังกลบทำลายซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า หรือ “หมูเถื่อน” 140 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือกว่า 3 ล้านตัน หวั่น -ห่วงเรื่องอันตรายด้านสิ่งแวดล้อมที่มี ผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและเรื่องโรคระบาดสัตว์ ก่อนหน้าเร็ว ๆ นี้อ่วมซีเซี่ยม-137 ที่มีการนำมาหลอมไปแล้วในพื้นที่ ต.หาดนางแก้วนี้ ไม่ยินยอมเด็ดขาดให้กรมปศุสัตว์และ DSi มีการนำหมูเถื่อนแหลมฉบังมาฝังกลบ

จากกรณีที่กรมปศุสัตว์และ DSi ได้เตรียมทำการขนย้ายซากหมูเถื่อนนำมาทำการฝังกลบทำลายซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า หรือ “หมูเถื่อน” ในพื้นที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี หมู่ 6 ตำบลหาดนางแก้ว อำเกอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 140 ตู้ ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวม กว่า 3 ล้านกิโลกรัม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้เป็นคดีพิเศษเลขที่ 59 / 2566 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 อยู่ระหว่างรวบรวมสำนวนและวัตถุพยานให้ครบถ้วน เพื่อรอการส่งมอบของกลางซากชิ้นส่วนสุกรให้กับกรมปศุสัตว์นำไปทำลาย เมื่อวันที่ 25 ต.ค.66

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2566 นายสัตวแพทย์ ต้นพงศ์ คำพลงาม นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ กองสารวัตรและกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ได้ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ทำประชาคมความเห็นชาวบ้านต.หาดนางแก้ว ที่จะนำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่ และจากนั้น ให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านให้ความคิดเห็น ซึ่งสรุป กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้าน ไม่เห็นด้วยที่จะนำซากสัตว์จำนวนมาก มาฝังกลบในพื้นที่โดยเด็ดขาด ทั้งนี้มีการชูป้ายคัดค้านตลอดเวทีประชาคม พร้อมความเห็นการที่จะนำเอาซากหมูมาฝังกลบในพื้นที่ และมีการส่งเสียงคัดค้านไม่ให้นำซากหมูมาฝังกบในพื้นที่โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ไม่ให้มีการนำซากหมูมาฝังกลบในพื้นที่โดยเด็ดขาด

ด้าน นายสัตวแพทย์เพิ่มพร ฉายเพิ่มศักดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ต้องยอมรับมติของประชาชนที่มาร่วมประชาคมในครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านทุกคนขอคัดค้านมิให้นำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำเรื่องทั้งหมด นำเสนอต่อส่วนที่เกี่ยวข้องระดับสูงให้ทราบต่อไป นายสัตวแพทย์เพิ่มพรกล่าว

ด้าน น.ส.นพวรรณ สามพล ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า ตนเองและชาวบ้านทุกคน รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียง ขอคัดค้านการที่จะนำซากหมูมาฝังในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆชาวบ้านทุกคนขอคัดค้านไม่ให้นำซากสัตว์มาฝังกลบในพื้นที่เด็ดขาด เพราะพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอาศัยแหล่งน้ำ และใช้บ่อน้ำตื้นทำการเกษตรเลี้ยงชีพ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำเสียไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ในการเกษตรมีมลพิษในพื้นที่ น.ส.นพวรรณกล่าว

ขณะที่นายสุนทร คมคาย อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.กบินทร์บุรี (ทสม.) NGO. และ อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีเขต 3 กล่าวว่า ตนเองและชาวอำกบินทร์บุรีและ เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.กบินทร์บุรี (ทสม.) ยืนยันร่วมแสดงพลังในการต่อต้าน ไม่ต้องการการ กรณีที่กรมปศุสัตว์และ DSi ได้ทำการขนย้ายซากหมูเถื่อน140ตู้คอนเทนเนอร์ หรือราว 3ล้านตัน นำมาทำการฝังกลบทำลายซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า หรือ “หมูเถื่อน”ที่พื้นที่ศูนย์วิจัยสัตว์ปีกจังหวัดปราจีนบุรี หมู่ที่ 6 ตำบลหาดนางแก้ว เพราะ ภาวะมลพิษ ,เชื้อโรคระบาด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากการหลอมสารซีเซี่ยม-137 ในตำบลหาดนางแก้ว ไปไม่นาน

วันนี้วิกฤติภาวะสิ่งแวดล้อมพื้นที่ ต .หาดนางแก้ว,ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีมากพอแล้ว เนื้อหมูเถื่อนเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีเป็นแหล่งเพาะแม่หมูอันดับ 2 ของประเทศ จะเสี่ยงต่อการตลาด ไม่มีใคอยากได้ลูกหมูเพราะเสี่ยงต่อโรคระบาด นายสุนทร กล่าวในที่สุด

โดย…มานิตย์ สนับบุญ*ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ / ปราจีนบุรี