เชียงราย-นขร.เชียงราย สกัดจับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลอบลำเลียงยาบ้า 5.3 ล้านเม็ด ไอซ์ 150 กก. และเฮโรอีน 38.3 กก. จากสปป.ลาว ขึ้นเทียบท่าป่าช้าริมโขง จนท.จึงแสดงตัวจับกุม แต่พ่อค้าอาศัยความชำนาญพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้

น.อ.จิรัฐฏ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงราย ได้รับแจ้งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไม่ทราบชนิดและจำนวนจาก สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาประเทศไทย บริเวณท่าป่าช้าริมแม่น้ำโขง จึงสั่งการให้ น.อ.พิชัยยุทธ ปาจะกัง หน.ยก. ขว.นรข.เขตเชียงราย รรก.สน.เรือเชียงแสน พร้อมด้วย ร.ท.สัญญา จันจี ผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์ จัดกำลังพลชุด ชปพ.บก.นรข.เขตเชียงราย และ สน.เรือเชียงแสน บูรณาการร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 และหมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3273 วางแผนเข้าทำการเฝ้าตรวจพื้นที่ ซ.2 ถึงป่าช้า บ.สบยาบ ม.2 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

กระทั่งเวลา 21.30 น.ของวันที่ 29 ส.ค.2565 ชุดเฝ้าตรวจ ซ.2 ได้ตรวจพบเรือกาบขนาดใหญ่ลักษณะบรรทุกสิ่งของมีน้ำหนักจำนวน 1 ลำแล่นข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว ชุดตรวจการณ์ส่องกล้องกลางคืนพบในเรือมีคนโดยสารนั่งในเรือจำนวน 3 คน เข้ามาเทียบริมตลิ่งแม่น้ำโขง ทั้ง 3 คนช่วยกันยกสิ่งของในเรือขึ้นจากเรือไว้บนฝั่ง และมีคนอีก 2 คนอยู่ที่ริมตลิ่งช่วยกันยกสิ่งของคล้ายกระสอบขึ้นมาวางบนริมตลิ่งจนเรือได้เคลื่อนตัวออกจากริมตลิ่ง จนท.ที่ทำการเฝ้าตรวจอยู่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าทำการตรวจสอบ แต่บุคคลทั้ง 2 คนได้อาศัยความชำนาญพื้นที่วิ่งหลบหนีไปในความมืด จนท.ไล่ติดตามแต่ไม่ทัน และเรือกาบลำดังกล่าวพร้อมคนในเรือทั้ง 3 คน ซึ่งได้ติดเครื่องยนต์และแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาวอย่างรวดเร็ว จนท.จึงเข้าตรวจสอบสิ่งของที่ถูกขนขึ้นมาวางอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จากการตรวจพบว่าเป็นยาเสพติดชนิดยาบ้าจำนวน 27 กระสอบ เป็นยาบ้า จำนวน 5,364,000 เม็ด เฮโรอีนจำนวน 6 กระสอบ น้ำหนัก 38.3 กิโลกรัม และไอซ์จำนวน 6 กระสอบ น้ำหนัก 150 กิโลกรัม

ต่อมาเวลา 09.30 น. พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กกล.ผาเมือง ได้เดินทางเข้ามาตรวจในที่เกิดเหตุริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านสบยาบ ต.แม่เงิน ร่วมกับ น.อ.จิรัฐฏ์ ผูกทอง โดยพลตรี ศุภฤกษ์ ได้สอบถามผลการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ นรข.ด้วยความสนใจ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบยาเสพติดที่ หน่วย นรข.เขตเชียงราย

พล.ต.ศุภฤกษ์ กล่าวว่า ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ นรข.เขตเชียงราย ที่สามารถสกัดจับยาเสพติดลอตนี้ได้ ซึ่งยาเสพติดชุดนี้ที่เจ้าหน้าที่เราสกัดจับได้ ทำให้ไม่หลุดลอดเข้าไปส่วนในของประเทศ ถ้าหากหลุดลอดไปได้จะทำให้เยาวชนของไทยตกเป็นทาสยาเสพติดจำนวนมาก โดยเฉพาะยาไอซ์ ถ้าหลุดไปถึงส่วนกลางประเทศจะมีมูลค่าถึงกิโลกรัมละ 1 ล้านบาท ยาบ้าเม็ดละ 100 บาท ทุกหน่วยต้องช่วยกันสอดส่องไม่ให้ยาเสพติดเหล่านี้ทะลักเข้ามาในประเทศไทยได้ และเชื่อว่ายาเสพติดลอตนี้ปลายทางน่าจะลักลอบขนออกนอกประเทศ เนื่องจากยาไอซ์ผู้เสพในต่างประเทศเป็นที่ต้องการมาก.