นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงผลการตรวจยึดเฮโรอีน 3.7 กิโลกรัม ซุกเครื่องทำกาแฟ จำนวน 1 เครื่อง เตรียมจัดส่งปลายทางประเทศออสเตรเลีย เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งเอกชน ในพื้นที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ (26 ก.ย.) ที่ผ่านมา
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ข้อมูลทางการข่าวถึงการเตรียมลักลอบส่งยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์ โดยได้พบความผิดปกติของพัสดุภัณฑ์ชิ้นหนึ่งที่มีราคาค่าขนส่งแพงผิดปกติ (แพงกว่าราคาของพัสดุที่ส่งเป็นจำนวนมาก) จากบริษัทขนส่งเอกชน ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และพัสดุดังกล่าวส่งมาจากพื้นที่เฝ้าระวังตามเป้าหมายของสำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อทำการตรวจสอบ โดยการแสกน พบความผิดปกติในเครื่องทำกาแฟ พบเฮโรอีนจำนวน 10 แท่งซุกซ่อนอยู่ภายใน น้ำหนักขนาด 3.7 กิโลกรัม ตนจึงได้สั่งการให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด จัดชุดปฏิบัติการภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) ประกอบด้วย ศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย และ สำนักงาน ป.ป.ส. เข้าทำการตรวจยึดพัสดุ และสืบสวนขยายผลเพื่อหาผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหน้ากล่องพัสดุต้องการส่งไปออสเตรเลีย”
จากข้อมูลที่ได้รับจากการลักลอบส่งพัสดุในครั้งนี้ ประกอบกับข้อมูลทางการข่าวที่ สำนักงาน ป.ป.ส. มีทำให้ทราบความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาในเบื้องต้นแล้วและจะเร่งสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
“สำหรับในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65 – ปัจจุบัน) ผลงานภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) สามารถสกัดกั้นการลักลอบส่งออกยาเสพติด ปลายทางประเทศออสเตรเลีย ได้กว่า 8 คดี จับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ 3 คน ยึดอายัดยาเสพติดของกลางไอซ์ 69.3 กก. เฮโรอีน 95 กก. และโคเคน 93 กก. ส่วนใหญ่พบลักษณะการซุกซ่อนในบริเวณต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หมอน หรือ ผงเครื่องดื่ม เป็นต้น”
“ นอกจากการสืบสวนภายในประเทศ สำนักงาน ป.ป.ส. จะเร่งประสานงานกับกรมสอบสวน ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (Australian Federal Police : AFP) เพื่อสืบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องในประเทศออสเตรเลีย และจะเฝ้าระวังการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านการขนส่งทางพัสดุ ทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศผ่านทางเครื่องบิน และเรือขนส่งสินค้า โดยใช้หน่วย AITF และ SITF ที่เป็นความร่วมมือของหน่วยงานที่ปฏิบัติงานบริเวณท่าเรือและท่าอากาศยาน ในการร่วมเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อให้เป็นไป ตามนโยบายด้านยาเสพติดของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน และจะต้องลดปริมาณการขนส่งยาเสพติดผ่านระบบขนส่ง รวมถึงนำผู้เกี่ยวข้องมารับโทษและดำเนินการยึดทรัพย์” นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว