จากกรณี นายกฤษฎา หรือเหน่ง (ขอสงวนยนามสกุล) อายุ 35 ปี ได้ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย ได้ปิดล้อมบ้านพักเป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้ญาติโทรศัพท์เข้าเจรจา เพื่อให้ออกมามอบตัว

ต่อมาเมื่อเวลา 18.58 น. วันที่ 17 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามในการเจรจากับ นายเหน่ง ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่า ยังคงปิดไฟเงียบ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมง พี่สาวของ นายเหน่ง ได้เดินทางเข้ามาที่บริเวณหน้าบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ให้สวมเสื้อเกราะ เพื่อเจรจากับน้องชายให้ออกมามอบตัว

นายเหน่ง ได้พูดคุยกับพี่สาวผ่านทางโทรศัพท์ โดยบอกว่า ตนไม่คิดที่จะทำร้ายใครแล้ว และจะออกมามอบตัว แต่เนื่องจากยังคงมีอาการเครียดอยู่ และกลัวว่าภรรยาจะไม่คืนดีด้วย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ ได้เจรจาขอให้เปิดไฟภายในบ้าน ซึ่ง นายเหน่ง ได้ยอมเปิดไฟภายในบ้านที่บริเวณชั้น 2 นอกจากนี้ นายเหน่ง ยังได้บอกกับพี่สาวด้วยว่า ตนได้ใช้อาวุธปืนยิงที่ขาของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ เพราะอยากรู้ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร ทีแรกตั้งใจจะยิงตัวเองเพื่อจบชีวิต แต่เนื่องจากไม่กล้า

ล่าสุดเมื่อ 20.10 น. ได้มีฝนตกโปรยปรายลงมาในบริเวณที่เกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องใช้พื้นที่ใกล้เคียงหลบฝน ซึ่งจากการสังเกตสถานการณ์ในเบื้องต้นพบว่า นายเหน่ง ปิดไฟภายในบ้านทั้งหมด ในขณะที่ฝนยังตกลงมาอย่างหนัก

จากนั้น นายเหน่ง ได้ลงมาจากชั้นบนของบ้าน และเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน พร้อมกับชูมือขึ้นเหนือศีรษะ เพื่อแสดงตัวในการขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทันทีที่ นายเหน่ง ยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับพี่สาวได้เข้าไปรับตัว นายเหน่ง และนำข้าวกล่องน้ำดื่มให้กินเพื่อคลายความเครียด มีการพูดคุยกัน โดยพบว่า นายเหน่ง มีบาดแผลที่ขาข้างซ้ายจากการใช้อาวุธปืนยิงขาตัวเอง จากนั้นได้นำตัว นายเหน่ง ขึ้นรถตู้ที่จัดเตรียมไว้ นำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัย

ที่โรงพยาบาลอุทัย มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลควบคุมตัวอย่างใกล้ชิด โดยมีการตรวจยึดอาวุธปืนขนาด.38 ที่ใช้ในการก่อเหตุ จะสอบสวน นายเหน่ง อีกครั้งหลังจากทำการรักษาตัวแล้ว