เชียงราย-“เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรี ยกทีมรัฐมนตรีลงพื้นที่เชียงราย ดูงานด่านแม่สาย รับฟังปัญหาต่างๆ ตัวแทนชาวบ้านแห่ต้อนรับมอบดอกไม้ พร้อมส่องทะเบียนรถนายกฯ ลุ้นหวยงวด 16 กันยายน 2566
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 15 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะ
ทั้งนี้ เมื่อมาถึงได้มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย มาต้อนรับ พร้อมกลุ่มเครือข่ายสตรีเทศบาลนครเชียงราย นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบสีแดงและสีชมพู มามอบให้นายกรัฐมนตรี พร้อมถือป้ายข้อความ “หมู่เฮาจาวเทศบาลนครเจียงฮาย ขอต้อนฮับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ด้วยความยินดียิ่ง ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน” ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่มาต้อนรับ รวมถึงบางส่วนก็มีการถ่ายภาพทะเบียนรถนายกรัฐมนตรีที่ใช้ลงพื้นที่ก่อนที่สลากกินแบ่งรัฐบาลจะประกาศรางวัลงวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2566 ด้วย
จากนั้น นายเศรษฐา พร้อมคณะ เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารหลู้ลำ เชียงราย ก่อนที่เวลา 14.40 น. จะตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาในพื้นที่ ณ ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงรับฟังประเด็นเรื่องการค้าชายแดน (NEC) และปัญหายาเสพติด พบปะกลุ่มชาติพันธุ์ และร่วมพูดคุยประเด็นการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลไร้สัญชาติ อาทิ สิทธิการศึกษา สิทธิการรักษาพยาบาล สิทธิในที่ดินทำกิน และสิทธิในด้านอื่นๆ
สำหรับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นครั้งแรกหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ และในการปฏิบัติภารกิจ จ.เชียงราย นายกรัฐมนตรีโดยสารรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีขาว ทะเบียน กบ 5959 เชียงราย ส่วนการรักษาความปลอดภัยตลอดการลงพื้นที่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 600 นาย รวมถึงประจำจุดถนนร่วมและทางแยกตลอดเส้นทางขบวนรถผ่าน นอกจากนี้ ยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบคอยดูแลพื้นที่กรณีมีกลุ่มมวลชนทั้งกลุ่มสนับสนุนและต่อต้าน แต่ขณะนี้ไม่มีรายงานว่ามีกลุ่มต่อต้านแต่อย่างใด.
