ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ให้ ผศ.ดร. สืบพงษ์ ปราบใหญ่ นั่งอธิการบดี ม.รามคำแหง ต่อไป ด้านกลุ่มนักศึกษา ม.รามฯ เผย รู้สึกดีใจที่อธิการบดีได้รับความยุติธรรมอีกครั้งหนึ่ง ลั่นเชื่อมั่นในตัวอธิการบดี พร้อมชี้ยังมีพยายามที่จะถอดถอนอีก??

วันนี้ (23 สิงหาคม 2565) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีที่สภามหาวิทยาลัย ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้ศาลยกฟ้อง กรณีศาลปกครองกลาง สั่งให้ “ผศ.ดร. สืบพงษ์ ปราบใหญ่” กลับไปนั่งอธิการบดี ม.รามคำแหง ในขณะที่ศาลปกครองชี้ มติสภา ม.รามคำแหง มีผลกระทบต่อสิทธิ ไม่ได้มีการสืบสวนความผิด ส่งผลให้ ผศ.ดร. สืบพงษ์ ปราบใหญ่ กลับไปทำหน้าที่อธิการบดีเหมือนเดิม

สาระสำคัญที่ก่อนศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง คือ เป็นเหตุผลของการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลาง ระบุตอนหนึ่งว่า การถอดถอน ผศ.ดร. สืบพงษ์ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี เป็นคำสั่งทางปกครองที่มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ฟ้องคดี แต่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้มีการสืบสวนสอบสวนถึงการกระทำความผิด และแจ้งให้ผศ.ดร. สืบพงษ์ ​ ได้มีโอกาสรับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอเพื่อโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานเพื่อแก้ข้อกล่าวหา

 

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ให้ ผศ.ดร. สืบพงษ์ ปราบใหญ่ นั่งอธิการบดี ม.รามคำแหง ต่อไป/Cr.ภาพ สปช.news

นอกจากนั้น ผศ.ดร. สืบพงษ์ ​เพิ่งดำรงตำแหน่งอธิการบดี เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 64 และถูกสภามหาวิทยาลัยฯ ลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง หลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียง 3 เดือน ถือว่าผู้ฟ้องคดีเพิ่งได้เริ่มปฏิบัติงาน และยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้งว่าการกระทำของผู้ฟ้องคดีเป็นการกระทำอันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนหรือไม่ ในชั้นนี้จึงเห็นว่า มติของสภามหาวิทยาลัย รวมทั้งคำสั่งถอดถอนที่ออกตามมาน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย
หากต่อไปศาลเพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง และคำสั่งสภามหาวิทยาลัย ผู้ฟ้องคดีอาจไม่สามารถดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้อีก อันเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรง ยากแก่การเยียวยา อีกทั้งการทุเลาการบังคับตามมติสภามหาวิทยาลัยฯ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารงาน เนื่องจากนายสืบพงษ์ สามารถดำเนินการบริหารงานของมหาวิทยาลัยตามอำนาจหน้าที่ได้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า มีกระแสข่าว อีกว่า ให้จับตาศึก การปลดอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ยังไม่จบ ล่าสุด สภาได้มีการเรียกประชุมสภาฯ ถี่ขึ้นจนเป็นที่น่าสังเกตว่ามีเจตนาพิเศษจะหาเหตุพยายามที่จะถอดถอนอธิการบดี เป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ และในการเรียกประชุมสภาฯ แต่ละครั้งทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการจ่ายเบี้ยประชุม เพราะต้องจ่ายเบี้ยประชุมให้กรรมการ รวมแล้วประมาณ 160,000 บาทต่อครั้ง และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในแต่ละครั้งที่เรียกประชุมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งสอบอธิการบดี โดยอ้างเหตุจากการร้องเรียนจากผู้ร้องที่ไม่มีตัวตน?? และได้มีการเรียกร้องจากกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรราม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบด้วยว่า ขั้นตอนหรืออำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีการใส่ความโดยไม่มีมูลความจริงหรือไม่ และการดำเนินการประชุมลักษณะนี้ เป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาฯหรือไม่

ด้านกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า วันนี้พวกเราเป็นตัวแทน “นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหง” มาร่วมให้ กําลังใจท่านอธิการบดี วันนี้พวกเรารู้สึกดีใจที่อธิการได้รับความยุติธรรมอีกครั้งหนึ่งและพวกเราอยากขอบคุณศาลปกครองสูงสุดที่ให้ความยุติธรรมกับอธิการบดีในวันนี้ด้วย ถือเป็นบันทึกหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาว ม. รามคําแหง และต่อจากนี้พวกเราเชื่อมั่นในตัวอธิการบดีว่า จะพัฒนามหาวิทยาลัย ของพวกเราให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีกระแสข่าวมาว่า สภามหาวิทยาลัย ยังคงมีความพยายามที่จะถอดถอนท่านอธิการอีก?? โดยพยายามนําเรื่องร้องเรียน จากคนร้องเรียน ที่ไม่มีตัวตน เป็นบัตรสนเท่ห์ มาพิจารณาหาเหตุถอดถอนอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามพวกเรา ในนามตัวแทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคําแหง และชาวรามคําแหงทุกคนรู้ดีว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น