สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาที่จะพ้นตำแหน่ง กล่าวว่า การถ่ายโอนอำนาจให้ลูกชายคนโตของเขาอาจต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว แต่หลังโอนอำนาจให้แล้วชีวิตของลูกชายตกอยู่ในอันตราย เขาอาจกลับเข้ารับตำแหน่งเดิมอีกคำรบหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ โดยการถ่ายอำนาจให้กับลูกชายจะจัดตั้งขึ้นในวันที่ 22 ส.ค. หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติรายงานผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
“ผมขอเตือนว่าหากชีวิตของลูกชายผมตกอยู่ในอันตราย มีความเป็นไปได้ที่ผมจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมต้องกลับมาเป็นนายกฯ และทำงานอีกสักระยะ แล้วหลังจากนั้นผมจะเลือกว่าใครสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” ฮุนเซน กล่าว
สมเด็จ ฮุน เซน กล่าวว่า แม้กระทั่งภริยาของเขา แม่ของ ฮุน มาเนต ก็ไม่รู้เรื่องการแต่งตั้งนายพล 4 ดาววัย 45 ปีเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนที่ผนี้ เนื่องจากฮุนเซนเคยกล่าวว่าเขาจะยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปจนถึงปี 2571
ฮุน มาเนต
บรรดาผู้นำพรรค CPP เช่น ซาร์ เค็ง รัฐมนตรีมหาดไทย และเตีย บัญ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ยังวางแผนที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนหน้าเช่นกัน
นาย อัม สัม อัธ กล่าวว่า ฮุนเซนแต่งตั้ง ซาร์ เค็ง และเตีย บัญ และคนอื่นๆ เป็นองคมนตรี ซึ่งไม่มีอำนาจแท้จริงต่อกิจการของรัฐบาล เพื่อกันพวกเขาออกจากอำนาจ แต่การไม่แบ่งปันอิทธิพลบางอย่างอาจทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค
“ความจริงที่ว่า ฮุนเซนรวมอำนาจเพียงคนเดียวอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางอาวุธที่ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจ ซาร์ เค็ง อาจร่วมมือกับเตีย บัญ ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจดังกล่าว ซึ่งยังเหลือเวลาอีกหลายวัน และฮุนเซนมีความวิตกกังวล” อัม สัม อัธ กล่าว